ทำไมเทรดเดอร์ถึงขาดทุน
เชื่อว่าหลายคนคงเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ … เห็นสัญญาณ ซื้อ > เข้า ซื้อ > ราคาแกว่งตัวลงเล็กน้อย > เห็นการขาดทุน > กลัวว่าจะลงต่อ > ตัดขาดทุนออกไป > ราคาเริ่มกลับมาขึ้น > วิ่งต่อไปไกล … ซึ่งเชื่อว่าเหตุการณ์มักหลอกหลอนกับมือใหม่หลายๆคน และเป็นตัวเหมือนเขาวงกตไม่ให้เทรดเดอร์ออกไปจากวังวนนี้ได้
******************************************************************************
------------------------------------
# ☔ บอกซิกผ่านแอปทวิตเตอร์ 💥 twitter :
# 🚦 https://twitter.com/malidokraksing
🏗 ติดตามข่าวสารเข้าออเดอร์ TP / SL
ได้ 24 ช.ม. 🎞 ซิกแม่นๆรายวัน 📷 💲 💱
------------------------------------- 📞 ☎ 📟 💿 📀 📼 🎥 🕹 📮 🎗️ 📁 📂 🗂 📖 📍 🔖 🖊 📒
******************************************************************************
ความอดทน เป็นนิสัยที่สำคัญของเทรดเดอร์ที่ต้องมี เทรดเดอร์ที่เจอเหตุการณ์ข้างต้นนั้นมักไม่มีความอดทน ไม่สามารถทนต่อการขาดทุนได้ จึงทำให้ต้องยอมขาดทุน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเราต้องเข้าใจว่า “การเคลื่อนไหวของราคานั้นมีทั้งขึ้นและลง” เป็นไปไม่ได้เลยที่พอร์ตเราจะโชว์กำไรอยู่ตลอด มันต้องมีช่วงที่ขาดทุนอยู่แล้ว เป็นความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย
ดังนั้นเทรดเดอร์ต้องอดทนต่อการขาดทุนให้ได้ เพื่อที่จะไปเก็บกำไรในอนาคต และอีกด้านหนึ่งของความอดทนคือ “รอให้เป็น”
เช่นเดียวกัน เทรดเดอร์ที่ยังขาดทุนก็เพราะคิดว่าการเป็นเทรดเดอร์นั้นต้องเทรดทุกวัน ซึ่ง “ไม่จริง” เทรดเดอร์มืออาชีพจะเข้าเทรดในช่วงที่คิดว่าตัวเขาได้เปรียบที่สุด มีโอกาสชนะที่สุด จึงค่อยเข้าไปเทรด บางทีสัปดาห์ไหนไม่มีสัญญาณเทรด ก็ไม่เทรด ต่างกับเทรดเดอร์มือใหม่ที่มักจะไล่หาสัญญาณเทรด พอไม่ได้เทรดเพียง 1-2 วันก็ลงแดง อยากจะเทรดให้ได้ จึงไปเปิดออเดอร์ที่ไม่เหมาะสม ทำให้ผลการเทรดนั้นออกมาแย่
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ข้อมูลเพิ่มเติม YouTube : Forex : For = Foreign, Ex =
Exchange : คลิปโดดเด่นปี
2561 https://bit.ly/2yOjZsS
YouTube : Forex : For =
Foreign, Ex = Exchange : คลิปโดดเด่นปี 2560 https://bit.ly/2Akxvqp
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
มีเทรดเดอร์มืออาชีพท่านหนึ่งที่รู้จัก คนนี้เทรดแค่เดือนละไม่กี่ครั้ง Set up ของเขาคือการเทรด Special events เท่านั้น แต่การเทรดล่ะครั้งนั้นสามารถทำกำไรให้เขามากพอเท่ากับที่เทรดเดอร์หลายคนเทรดจำนวนหลายๆ ครั้ง หลายๆ รอบ เผลอๆได้กำไรมากกว่าด้วยซ้ำ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
#เทรดdemoได้เงินแต่ทำไมเทรดเงินจริงกลับขาดทุน?
การเทรดdemoก่อนเทรดจริงเป็นสิ่งที่ดีในการเริ่มต้น
แต่ทำไมเวลาเทรดเงินจริงกลับขาดทุนไม่เหมือนตอนเทรดdemo
ปัจจัยหลักๆที่เวลาเทรดdemoได้เงินและเวลาเทรดจริงเสียเงิน
หลักๆมี 5 ปัจจัย
1.#เพราะมีวินัยการเทรดไม่มากพอเวลาเทรดจริง
อารมณ์เป็นปัญหาหลักของการเทรดด้วยเงินจริง
เรามักจะไม่มีวินัยในการเทรด ไม่ทำตามแผน ออกก่อนบ้าง
เข้าเร็วบ้าง overtrade บ้าง เทรดเงินจริงแล้วไม่ cutlossตามแผนบ้าง
พูดง่ายๆคือไม่ทำตามแผนเหมือนตอนเทรดdemo
2.#backtestจากแค่ช่วงๆหนึ่งของตลาด
สมมุติถ้ากลยุทธ์เราคือเล่นตอนตลาดเป็นเทรน
การbacktest หรือการเทรดdemoเป็นการจำลองการเทรด
จากช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้บอกว่ากลยุทธ์ที่เราใช้
จะสามารถใช้ได้กับทุกช่วงเวลา ซึ่งอาจจะได้กำไรใน
ช่วงที่เราเทรดdemo
แต่ในตลาดจริงๆ
มันมีหลายสภาวะ สภาวะที่ตลาดไร้แนวโน้ม สภาวะที่เป็นเทรน
Sidewayup sidewaydown
หรืออาจจะเป็นช่วงที่เป็นerrorของtradesetupนั้นๆ
เลยทำให้เราขาดทุน
3. #ตลาดเปลี่ยน
ตลาดมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา กลยุทย์ที่ดีในอดีต
อาจจะใช้ได้ไม่ดีในปัจจุบัน เพราะผู้เล่นเปลี่ยน หลายๆปัจจัยในตลาดเปลี่ยน
ตลาดบางpatternอาจจะเกิดขึ้นบ่อยในอดีต เช่น breakout buy on dip
แต่ทุกวันนี้ในหุ้นหลายๆตัวการ false breakอาจจะเกิดขึ้นมากกว่า
หรือในอดีตหุ้นตัวนี้trade timeframe day ดีที่สุดแต่ปัจจุบัน
สภาพคล่องเยอะขึ้น การเก็งกำไรสั้นๆมากขึ้นทำให้
ราคามีความผันผวนขึ้นในระหว่างวัน การเปลี่ยนไป
เทรดในtfที่เล็กลงอาจจะได้ผลดีกว่า
4.#โชคร้ายเจอเหตุการณ์ที่นานๆเกิดขึ้น(ปัจจัยภายนอก)
ปัจจัยภายนอกที่มักทำให้ราคาเคลื่อนที่ผิดปกติ เช่นเปิดมา
กระโดด30จุด เหตุการณ์เลือกตั้ง การเปลี่ยนผู้บริหาร
การเพิ่มทุนกระทันหัน เหตุการณ์เหล่านี้เป็นเหตุการณ์ที่
ราคามีความผันผวนสูง ถูกทางก้ได้เยอะ แต่ถ้าผิดก้เสียเยอะเหมือนกัน
บางเหตุการณ์ไม่สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้า
หลายๆคนเสียหายหนัก
แต่ส่วนใหญ่เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ
5.#ลืมมองเรื่องmaximumdrawdownและไม่วางmoneymanagementให้เหมาะสม
บางเทรดsetupมีdrawdownที่สูง โดยเฉพาะแผนที่
winrateต่ำ แต่rr สูง เมื่อเราเทรดdemoอาจจะไม่ได้สังเกตในส่วนนี้
พอเวลามาเทรดด้วยเงินจริง ใส่เงินมากขึ้น วางposition sizingมากขึ้น
เมื่อเหตุการณ์จริงเกิด drawdown ที่สูงเกินไปเช่น 25%
การขาดทุน25%อาจจะเป็นdrawdownของแผนนั้นๆ
เมื่อเป็นอย่างนั้นการขาดทุนอาจจะเป็นส่วนนึงของแผนที่วางไว้
แต่เราอาจจะลืมมองจุดนี้