วัยเกษียณ เป็นวัยที่ต้องการการพักผ่อน ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่วัย 60 ปี เป็นวัยที่ต้องเกษียณออกจากการทำงานเพื่อพักผ่อนอยู่กับบ้าน แต่เชื่อว่าผู้สูงอายุที่มีวัย 60 ปีหลาย ๆ คนคงไม่ต้องการหยุดพักอยู่กับที่ เนื่องจากว่าผู้ที่เกษียณรู้สึกว่าตนยังคงมีกำลังพอและไม่ต้องการให้ตัวเองเป็นภาระต่อลูกหลาน ดังนั้นการหาอาชีพเสริมที่สามารถทำได้หลังเกษียณ จึงเป็นตัวช่วยอีกหนึ่งข้อทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกภาคภูมิใจในตนเอง สำหรับ อาชีพเสริมหลังเกษียณ ที่น่าสนใจและช่วยให้ผู้สูงวัยรู้สึกผ่อนคลาย ไม่เหงา มีดังต่อไปนี้
1.เพาะต้นไม้จำหน่าย
ผู้ที่อยู่ในวัยเกษียณหลาย ๆ คนอาจชื่นชอบที่ได้ใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ หรือบางคนรักการปลูกและดูแลต้นไม้อยู่แล้ว ชีวิตหลังเกษียณจึงถือเป็นโอกาสได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในการเพาะต้นไม้สำหรับจำหน่าย โดยการเลือกปลูกต้นไม้ไม่ควรเลือกพืชที่ต้องใช้กำลังในการดูแลหรือพืชยืนต้น แต่ควรเลือกเพาะไม้ดอกจะดีกว่า เนื่องจากมีราคาสูง เพาะพันธุ์ง่ายและใช้เวลาไม่นาน
2.ทำอาหาร-ขนม
ผู้ที่เกษียณซึ่งมีพรสวรรค์ทางด้านการทำอาหารหรือขนมอยู่แล้วอาจเลือกเปลี่ยนงานอดิเรกที่ตนชอบเป็นงานเสริมสร้างรายได้ เนื่องจากว่าการจำหน่ายของกินเป็นสิ่งที่สร้างรายได้ซึ่งง่ายและรวดเร็วที่สุด ยกตัวอย่างเช่น การทำวุ้นกะทิจำหน่าย การทำขนมอบ การทำขนมไทยฝากวางจำหน่ายตามหน้าร้าน ซึ่งหากฝีมือการทำขนมหรืออาหารอร่อยก็อาจมีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น สำหรับการทำขนมหรืออาหาร ไม่ควรเลือกขนมที่ต้องใช้แรงมากจนเกินไป เนื่องจากไม่เหมาะสมกับวัย ยกตัวอย่างเช่น การทำขนมกวน ที่ต้องใช้แรงในการกวน เป็นต้น
3.ที่ปรึกษาบริษัทต่าง ๆ
สำหรับการเป็นที่ปรึกษาบริษัทนับว่าเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่น่าสนใจในวัยเกษียณ แต่ผู้ประกอบอาชีพนี้ได้ต้องมีความสามารถสูงหรือเคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการของหน่วยงานก่อนเกษียณอยู่แล้ว ซึ่งอาชีพนี้นับว่ามีรายได้ดีและเป็นการสร้างคุณค่าให้กับตนเองได้อีกทางหนึ่ง
4.ผู้เขียนคอลัมน์ต่าง ๆ ในนิตยสาร
ผู้เกษียณที่มีฝีมือในด้านการเขียนหรือชอบอ่านหนังสือเป็นทุนเดิม อาจเลือกเขียนคอลัมน์หรือบทความเพื่อลงไปตีพิมพ์ในนิตยสารต่าง ๆ เนื่องจากว่าวัยเกษียณเป็นวัยที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตทุกรูปแบบ ย่อมมีข้อคิดที่สามารถสอนใจคนรุ่นใหม่ได้อย่างแน่นอน ซึ่งจะดีกว่าหรือไม่หากมีการถ่ายทอดความรู้ออกเป็นตัวอักษรให้รุ่นลูกรุ่นหลานได้นำไปปฏิบัติตาม
5.รับสอนพิเศษ
สำหรับผู้เกษียณที่เคยประกอบอาชีพครูมาก่อน การรับสอนพิเศษที่บ้านนับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะนอกจากจะใช้เวลาว่างที่สร้างมูลค่าได้แล้ว ยังถือเป็นการแบ่งปันความรู้อีกทางหนึ่งด้วย สำหรับการสอนพิเศษนั้นไม่ควรจำกัดเฉพาะการสอนเด็ก แต่อาจเลือกสอนผู้ใหญ่ เนื่องจากเป็นวัยที่พร้อมเรียนรู้อยู่เสมอ
6.ลงทุนในหุ้นปันผล
แม้ว่าวัยเกษียณจะไม่เหมาะกับตลาดหุ้นเท่าใดนักในความคิดของหลาย ๆ คน เนื่องจากเป็นตลาดที่มีความเสี่ยงสูงสูญเสียเงินต้น แต่หากผู้เกษียณเลือกหุ้นที่ดี มีปันผลสูงก็สามารถเป็นรายได้เสริมได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ผู้เกษียณควรหลีกเลี่ยงการเล่นหุ้นปั่นหรือหุ้นตามกระแส เพราะอาจทำให้เกิดการขาดทุนและก่อให้เกิดความเครียดจนเกินไปได้อีกด้วย
เพจหุ้นเดย์เทรด : http://bit.ly/2dVaxtS
7.ธุรกิจหยอดเหรียญ
ในปัจจุบันจะเห็นว่าธุรกิจหยอดเหรียญ เริ่มเข้ามามีบทบาทในทุกสังคมของประเทศไทย เนื่องจากมีความสะดวกสบาย ซึ่งธุรกิจหยอดเหรียญนับว่าเป็นอาชีพที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงอายุ เนื่องจากไม่เป็นภาระให้ต้องดูแลมากเกินไป โดยธุรกิจหยอดเหรียญที่น่าสนใจ ได้แก่ ตู้น้ำหยอดเหรียญ เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ตู้เติมน้ำมันหยอดเหรียญ ตู้เติมเงินหยอดเหรียญ เป็นต้น
8.สร้างงานฝีมือ- งานศิลปะจำหน่าย
วัยเกษียณเป็นวัยที่มีสมาธิมากขึ้น ดังนั้นการสร้างงานศิลปะจึงไม่ใช่เรื่องยากและทำให้เกิดความเพลิดเพลินได้อีกด้วย สำหรับการสร้างงานฝีมือนั้นมีหลายงานด้วยกัน ได้แก่ การถักโครเชต์ การถักนิตติ้ง การทำดอกไม้ประดิษฐ์ เป็นต้น ส่วนงานศิลปะก็ ได้แก่ การวาดภาพ การทำผ้าบาติก การทำสบู่เป็นรูปต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งการเลือกงานฝีมือแต่ละอย่างต้องคำนึงถึงความชอบของผู้เกษียณเป็นหลัก เพราะหากได้ทำงานตามความชอบแล้ว นอกจากจะเป็นการสร้างรายได้แล้วยังเป็นการสร้างความสุขใจอีกด้วย
9.เกษตรกร
อาชีพเกษตรกรเหมาะสำหรับผู้ที่อยู่ในวัยเกษียณอย่างมาก เนื่องจากเป็นวิถีชีวิตที่ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ อีกทั้งยังก่อให้เกิดความสุขและความเพลิดเพลิน แต่ทั้งนี้ผู้ที่อยู่ในวัยเกษียณไม่ควรเลือกอาชีพเกษตรกรที่หนักจนเกินไป แต่ควรเลือกเป็นอาชีพที่เหมาะกับกำลังและแรงกายของตน เช่น การเพาะสัตว์เลี้ยง การปลูกผักไฮโดรโพนิกส์ เป็นต้น
10.ซื้อห้องเช่า ห้องแถว
หากเป็นผู้เกษียณที่พอมีเงินเก็บอยู่สักหน่อย อาจซื้อห้องแถวหรือห้องเช่าไว้เป็นสมบัติของตนเองและเก็บเงินค่าเช่าเพื่อเป็นรายได้ในแต่ละเดือน ซึ่งการหารายได้เสริมในลักษณะนี้เหมาะกับผู้สูงวัยที่สุขภาพไม่แข็งแรงเท่าใดนัก เนื่องจากไม่ต้องทุ่มเทเวลาให้กับงานมากเกินไปจนเสียสุขภาพ
แต่ถึงอย่างก็ดีผู้เกษียณควรเลือกอาชีพเสริมที่ตนเองรัก และเหมาะกับลักษณะนิสัยของตนให้มากที่สุด นอกจากนี้สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่งคือการคำนึงถึงสุขภาพร่างกายของตน เนื่องจากวัยสูงอายุเป็นวัยที่ร่างกายเริ่มเสื่อมถอย พละกำลังไม่เหมือนรุ่นหนุ่มสาว การหักโหมทำงานมากเกินไปอาจทำให้เสียสุขภาพ และเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวมากเกินจะคาดคิดก็เป็นได้