ฟังเรื่องข้าวอินทรีย์(เปิดลำโพงด้วยครับ):http://www.organicricesingburi.blogspot.com
ปีใหม่นี้เป็นปีม้า ซึ่งหมายถึงความปราดเปรียว คล่องแคล่ว และหากว่าคนขี่มีความสามารถ รู้จักกำกับและเข้าใจนิสัยและความประพฤติของมันดี ก็จะใช้ความเก่งกาจสามารถของมันได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สูง
แต่หากว่าไม่เข้าใจลักษณะนิสัยใจคอและพฤติกรรมของม้าแล้ว มันก็พยศได้อย่างน่ากลัว เผลอๆ อาจจะเขย่าให้คนขี่หล่นจากหลังม้า ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักก็ได้
ดูจากสถานการณ์บ้านเมืองช่วงปลายปีต่อเนื่องมาถึงปีใหม่ ก็ยังน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งว่าม้าไทยในปีใหม่นี้ จะมีความพยศสูงยิ่ง จำเป็นที่คนขี่จะต้องรู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา และไม่ฝืนทิศทางของการวิ่งไปข้างหน้า จนเกิดอุบัติเหตุตกจากหลังม้า จนอาจได้รับบาดเจ็บเกินที่จะเยียวยา
หนทางที่บ้านเมืองจะออกจากวิกฤติการเมืองได้นั้น ความจริงไม่ได้สลับซับซ้อนหรือยุ่งยากเกินกว่าที่ผู้นำประเทศและฝ่ายต่อต้าน จะหาทางตกลงกันได้ เพราะต่างฝ่ายต่างก็ตระหนักว่าไม่สามารถที่จะได้ทุกอย่างที่ฝ่ายตนต้องการ
ทางออก คือ การนั่งคุยกัน แลกเปลี่ยนเงื่อนไขที่อีกฝ่ายหนึ่งจะรับได้ โดยไม่เสียหลักการที่ประชาชนต้องการในขณะนี้ นั่นคือ การปฏิรูปเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งที่ทุกฝ่ายยอมรับได้
วิญญูชน ที่มีใจเป็นกลางและต้องการหาทางออกให้กับประเทศชาติ ย่อมจะเห็นจุดอ่อนของทั้งสองฝ่าย และจำเป็นจะต้องผสมผสานสองสูตรนี้ เพื่อพบกันตรงกลาง
เพื่อป้องกันการเกิด "สงครามกลางเมือง" หากว่ายังปล่อยให้การเผชิญหน้าเดินหน้าในลักษณะที่เห็นอยู่ เสี่ยงกับการเกิดความรุนแรงได้ตลอดเวลา และยังเป็นการเปิดช่องว่างให้ "มือที่สาม" ไม่ว่าจะมาจากฝ่ายใดก็ตาม สอดแทรกเข้ามาสร้างความปั่นป่วนที่หนักหนาสากรรจ์ เกินกว่าที่ใครจะคาดคิดได้
ความจริง มีข้อเสนอจากนักวิชาการ ภาคธุรกิจ เอกชน และ สถาบันต่างๆ หลายประเด็น ที่นำมาประกอบเป็น "ทางออกประเทศไทย" ได้ อย่างไม่ยากเย็นนัก หากว่ารัฐบาลกับฝ่ายต่อต้านจะยอมลดเงื่อนไขสุดขั้วของตน แสวงจุดร่วมและสงวนจุดต่าง อย่างผู้มีความหวังดีต่อบ้านเมืองอย่างแท้จริง
ไม่มีใคร..ไม่ว่าจะยืนอยู่ฝั่งไหนของความขัดแย้ง ที่จะปฏิเสธความสำคัญของการ "ปฏิรูปประเทศ" และ "การเลือกตั้ง" ที่จะได้ตัวแทนประชาชนมาทำหน้าที่นิติบัญญัติและบริหารประเทศ
และต้องเป็นกระบวนการเลือกตั้งที่ สะอาด บริสุทธิ์ ยุติธรรม โปร่งใสในทุกขั้นตอน
ประเด็นอยู่ที่ว่า จะทำอย่างไรและจะจัดลำดับก่อนหลังอย่างไรให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายได้ โดยที่แต่ละฝ่ายต้องตระหนักว่า จะต้องเสียสละบางส่วนเพื่อให้ได้อีกบางส่วน เพื่อจะได้หลุดจาก "ทางตัน" ที่กำลังจะสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้กับคนทั้งชาติ
สติปัญญาบอกเราว่าหากเราไม่ยอมใช้เหตุและผล ของรัฐศาสตร์ผสมกับนิติศาสตร์ ความเป็น "นิติรัฐ" ก็ย่อมล่มสลาย
และเราก็จะกลายเป็น "รัฐล้มเหลว" เต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมเชื่อว่าไม่มีคนไทยคนไหนต้องการให้เกิดขึ้นในชั่วชีวิตของตนและลูกหลานไทยอย่างแน่นอน
ขอให้ปีใหม่เป็นปีม้าที่ปราดเปรียว คล่องแคล่ว สง่างาม และทำหน้าที่รับใช้เจ้าของประเทศอย่างน่าชื่นชม
มิใช่ม้าพยศบ้าบิ่นที่อยู่เหนือเหตุและผล และอาละวาดไปทั่ว
ผมขอกราบคารวะท่านผู้อ่านในวาระขึ้นปีใหม่ ขอตั้งปณิธานว่าจะทำหน้าที่สื่อมวลชน ที่รับผิดชอบและซื่อสัตย์ต่อจริยธรรมสื่อ...ในทุกประการ
สวัสดีปีใหม่ครับ
ปีใหม่นี้เป็นปีม้า ซึ่งหมายถึงความปราดเปรียว คล่องแคล่ว และหากว่าคนขี่มีความสามารถ รู้จักกำกับและเข้าใจนิสัยและความประพฤติของมันดี ก็จะใช้ความเก่งกาจสามารถของมันได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สูง
แต่หากว่าไม่เข้าใจลักษณะนิสัยใจคอและพฤติกรรมของม้าแล้ว มันก็พยศได้อย่างน่ากลัว เผลอๆ อาจจะเขย่าให้คนขี่หล่นจากหลังม้า ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักก็ได้
ดูจากสถานการณ์บ้านเมืองช่วงปลายปีต่อเนื่องมาถึงปีใหม่ ก็ยังน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งว่าม้าไทยในปีใหม่นี้ จะมีความพยศสูงยิ่ง จำเป็นที่คนขี่จะต้องรู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา และไม่ฝืนทิศทางของการวิ่งไปข้างหน้า จนเกิดอุบัติเหตุตกจากหลังม้า จนอาจได้รับบาดเจ็บเกินที่จะเยียวยา
หนทางที่บ้านเมืองจะออกจากวิกฤติการเมืองได้นั้น ความจริงไม่ได้สลับซับซ้อนหรือยุ่งยากเกินกว่าที่ผู้นำประเทศและฝ่ายต่อต้าน จะหาทางตกลงกันได้ เพราะต่างฝ่ายต่างก็ตระหนักว่าไม่สามารถที่จะได้ทุกอย่างที่ฝ่ายตนต้องการ
ทางออก คือ การนั่งคุยกัน แลกเปลี่ยนเงื่อนไขที่อีกฝ่ายหนึ่งจะรับได้ โดยไม่เสียหลักการที่ประชาชนต้องการในขณะนี้ นั่นคือ การปฏิรูปเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งที่ทุกฝ่ายยอมรับได้
วิญญูชน ที่มีใจเป็นกลางและต้องการหาทางออกให้กับประเทศชาติ ย่อมจะเห็นจุดอ่อนของทั้งสองฝ่าย และจำเป็นจะต้องผสมผสานสองสูตรนี้ เพื่อพบกันตรงกลาง
เพื่อป้องกันการเกิด "สงครามกลางเมือง" หากว่ายังปล่อยให้การเผชิญหน้าเดินหน้าในลักษณะที่เห็นอยู่ เสี่ยงกับการเกิดความรุนแรงได้ตลอดเวลา และยังเป็นการเปิดช่องว่างให้ "มือที่สาม" ไม่ว่าจะมาจากฝ่ายใดก็ตาม สอดแทรกเข้ามาสร้างความปั่นป่วนที่หนักหนาสากรรจ์ เกินกว่าที่ใครจะคาดคิดได้
ความจริง มีข้อเสนอจากนักวิชาการ ภาคธุรกิจ เอกชน และ สถาบันต่างๆ หลายประเด็น ที่นำมาประกอบเป็น "ทางออกประเทศไทย" ได้ อย่างไม่ยากเย็นนัก หากว่ารัฐบาลกับฝ่ายต่อต้านจะยอมลดเงื่อนไขสุดขั้วของตน แสวงจุดร่วมและสงวนจุดต่าง อย่างผู้มีความหวังดีต่อบ้านเมืองอย่างแท้จริง
ไม่มีใคร..ไม่ว่าจะยืนอยู่ฝั่งไหนของความขัดแย้ง ที่จะปฏิเสธความสำคัญของการ "ปฏิรูปประเทศ" และ "การเลือกตั้ง" ที่จะได้ตัวแทนประชาชนมาทำหน้าที่นิติบัญญัติและบริหารประเทศ
และต้องเป็นกระบวนการเลือกตั้งที่ สะอาด บริสุทธิ์ ยุติธรรม โปร่งใสในทุกขั้นตอน
ประเด็นอยู่ที่ว่า จะทำอย่างไรและจะจัดลำดับก่อนหลังอย่างไรให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายได้ โดยที่แต่ละฝ่ายต้องตระหนักว่า จะต้องเสียสละบางส่วนเพื่อให้ได้อีกบางส่วน เพื่อจะได้หลุดจาก "ทางตัน" ที่กำลังจะสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้กับคนทั้งชาติ
สติปัญญาบอกเราว่าหากเราไม่ยอมใช้เหตุและผล ของรัฐศาสตร์ผสมกับนิติศาสตร์ ความเป็น "นิติรัฐ" ก็ย่อมล่มสลาย
และเราก็จะกลายเป็น "รัฐล้มเหลว" เต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมเชื่อว่าไม่มีคนไทยคนไหนต้องการให้เกิดขึ้นในชั่วชีวิตของตนและลูกหลานไทยอย่างแน่นอน
ขอให้ปีใหม่เป็นปีม้าที่ปราดเปรียว คล่องแคล่ว สง่างาม และทำหน้าที่รับใช้เจ้าของประเทศอย่างน่าชื่นชม
มิใช่ม้าพยศบ้าบิ่นที่อยู่เหนือเหตุและผล และอาละวาดไปทั่ว
ผมขอกราบคารวะท่านผู้อ่านในวาระขึ้นปีใหม่ ขอตั้งปณิธานว่าจะทำหน้าที่สื่อมวลชน ที่รับผิดชอบและซื่อสัตย์ต่อจริยธรรมสื่อ...ในทุกประการ
สวัสดีปีใหม่ครับ