วันจันทร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2562

กลยุทธ์มาร์ติงเกลล์ (Martingale),ทฤษฎีมาร์ติงเกลกลยุทธ์วางเงิน,กลยุทธ์การเทรดแบบมาติงเกล (Martingale)

เรารับมือกับพายุได้ดีกว่าความยากจนของเราเอง?   กลยุทธ์มาร์ติงเกลล์ (Martingale),ทฤษฎีมาร์ติงเกลกลยุทธ์วางเงิน,กลยุทธ์การเทรดแบบมาติงเกล (Martingale) คลิกที่นี่

สัตว์ต่างๆล้วนมีวิวัฒนาการมาเพื่อต่อสู้กันเอง สู้กับผู้ล่า เอาตัวรอดจากสภาวะภัยต่างๆในธรรมชาติ ดังนั้น การรับมือกับภัยอันตรายภายนอก สำหรับมนุษย์เราแล้ว จะง่ายกว่าการรับมือจากภัยที่เกิดจากภายในเสมอ การต่อสู้ระหว่างมนุษย์ด้วยกันเอง มันง่ายกว่าการต่อสู้กับตัวเองนะ

เหตุใด ภัยภายในจึงรับมือได้ยากกว่าภัยภายนอก?

ประการแรก ภัยภายในนั้นเรามองไม่เห็น ไม่ได้ยิน และไม่สามารถรู้สึกได้ด้วยตนเอง และถึงแม้ว่าจะมีผู้อื่นเห็น แต่เราก็ยังจะไม่เห็นมันด้วยตนเองอยู่ดี มันจึงยากที่จะเชื่อถึงความมีอยู่จริง ดังนั้นใครที่สามารถมองเห็นภัยที่อยู่ในตนเองได้ เตือนตนเองได้ หรือหาเครื่องมืออื่นๆใดมาช่วยได้ คนๆนั้นจะได้เปรียบ

ประการที่สอง ภัยภายนอกนั้นมักเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือหายไปอย่างรวดเร็ว จึงมักทำให้เราตื่นเต้นตกใจได้ง่าย เมื่อเราตกใจ เราจะลงมือทำสิ่งหนึ่งลงไปเสมอ ไม่ว่าจะคิดต่อสู้ หรือหนีไป ในทางตรงกันข้าม ภัยภายในมักก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ และอยู่กับเราไปเป็นเวลานาน ความเคยชินจะทำให้เราไม่รู้สึกที่จะต้องตอบสนองหรือจัดการมัน ภัยภายในจึงกลายเป็นปัญหาเรื้อรังมากกว่าภัยภายนอก ผลกระทบจึงมากกว่า   [For-Lek-Laak-Yaa] คุณได้รับคำเชิญสู่ห้องแชท "For-Lek-Laak-Yaa"
ผู้ให้บริการเทรดระบบหุ่นยนต์

ประการที่สาม ภัยภายนอกสามารถระบุขอบเขตทางกายภาพ ระยะเวลา และทำการศึกษาได้ง่ายกว่า ดังนั้นมันจึงมีการเก็บข้อมูล วิเคราะห์ วิจัย และพัฒนาแนวทางในการแก้ไขปัญหาได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ตรงกันข้ามกับภัยภายใน มันเหมือนกับถ้ำที่เราไม่กล้าเข้าไปสำรวจ ทั้งไม่มีใครสอนวิธีการสำรวจ หรือเคยสำรวจแบบไม่ถี่ถ้วน หรือกลัว

เมื่อไม่มีการสำรวจ ไม่มีข้อมูล จึงย่อมไม่สามารถพัฒนาวิธีการมารับมือกับปัญหาที่เกิดจากภัยภายในได้

ภัยจากภายนอกทั้งหลายในยุคนี้ เรามีเทคโนโลยีอันก้าวหน้า ล้วนอยู่ในวิสัยที่มนุษย์จะจัดการได้แล้วหมดสิ้น เหลือแต่ภัยภายในทั้งหลาย ที่เทคโนโลยีในปัจจุบัน ยังไม่สามารถทำอะไร

อย่าลืมตรวจภายในอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง
-------------------------------------------------------------------------------------------------
(Jan 3) “ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดถึงกำไร” ผู้บริหาร Luckin Coffee บอก: Starbucks ในจีนเตรียมถูกโค่นในปีนี้ เพราะ Luckin Coffee สตาร์ทอัพกาแฟชื่อดังจากจีน ตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่อีก 2,5000 สาขาในปีนี้

นั่นจะทำให้ Luckin Coffee มีสาขารวมทั้งหมดเป็น 4,500 สาขาทั่วประเทศจีน เพิ่มจากเดิมที่มีอยู่ 2,000 สาขา

หากเป็นไปตามแผนนี้ Luckin Coffee จะกลายเป็นเชนร้านกาแฟที่มีสาขามากกว่า Starbucks ซึ่งมีสาขาในจีนปัจจุบันอยู่เพียง 3,600 แห่งเท่านั้น

แน่นอนว่า การขยายสาขาอย่างหนักหน่วงของ Luckin Coffee มีต้นทุนที่ต้องจ่าย อย่างในปี 2018 ที่ผ่านมา มีรายงานว่า สตาร์ทอัพกาแฟชื่อดังรายนี้เผาเงินไปกว่า 800 ล้านหยวน เพื่อขยายสาขาและปรับปรุงบริการให้สู้กับคู่แข่งในตลาดอย่าง Starbucks ได้อย่างทัดเทียม

แต่แม้ว่าจะใช้เงินสูงเพื่อต่อกรกับคู่แข่ง แต่ในปีที่ผ่านมา Luckin Coffee ได้ขึ้นแท่นเป็นสตาร์ทอัพยูนิคอร์น พร้อมทั้งระดมทุนรอบล่าสุดไปได้ถึง 200 ล้านดอลลาร์ และมีมูลค่ากิจการถึง 2.2 พันล้านดอลลาร์ (72,000 ล้านบาท)

Yang Fei ผู้บริหารฝ่ายการตลาด (CMO) ของ Luckin Coffee บอกไว้ว่า “สิ่งที่เราต้องการในตอนนี้ คือจำนวนสาขาและความเร็ว” ดังนั้น “ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดถึงกำไร(ของบริษัท)”
การขยายธุรกิจออกไปให้ยิ่งใหญ่และต่อสู้ในระยะยาวต่างหาก คือสิ่งที่สตาร์ทอัพรายนี้กำลังทำอยู่

โดย Thongchai Cholsiripong

Source: Brandinside.asia
https://brandinside.asia/luckin-coffee-more-stores-than-starbucks-china/

Cr.Bank of Thailand
scholarship Students
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-***************************************************************************
[For-Lek-Laak-Yaa] คุณได้รับคำเชิญสู่ห้องแชท "For-Lek-Laak-Yaa"
ผู้ให้บริการเทรดระบบหุ่นยนต์

“เวียตนาม : เร่งสร้างรถยนตร์แบรนด์ตัวเอง เดินตาม ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย อนาคตหวังชิงตลาดอาเซี่ยน”

หลังจากปี 2018 เป็นปีแรก ที่ภาษีรถยนต์ ระหว่างประเทศในอาเซี่ยนจากเดิม ร้อยละ 30 จะเหลือศูนย์เปอร์เซนท์ ทำให้ “เวียตนาม” ไม่สามารถจะดึงเกมชะลอเวลาในการปล่อยให้ “รถยนต์ญี่ปุ่น” ผลิตใน “ไทย อินโดนีเซีย” ไหลทะลักเข้าประเทศได้และน่าจะเริ่มในปี 2019 นี้ หลังจากอยู่ในช่วงดึงเกมเดินเรื่องเอกสารในปีนี้

... แต่ในอีกมุมหนึ่ง “เวียตนาม” ก็แก้เกม ก้าวไกล เดินตาม “ญี่ปุ่น เกาหลีใต้มาเลเซีย ออสเตรเลีย” ไปอีกขั้นแซง “ไทย” ที่เป็นได้แค่รับจ้างผลิตหรือขายแค่อุปกรณ์อะไหล่ประกอบรถ แต่ไม่มีแบรนด์ของตัวเองแบบ “โปรตอน” ของมาเลเซีย และ Holden ของ ออสเตรเลีย ( เหมือนรับจ้างเย็บผ้าโหล่ ในห้องแถว ให้กับแบรนด์ดังๆ เลยไม่ได้เพิ่มมูลค่าให้กับอุตสาหกรรมรถยนต์ของตัวเองและเงินเดือนของพนักงานในอุตสาหกรรมนี้ก็เลยไม่ขึ้นสูง ) ซึ่งพวกเขาได้เสี่ยงเดินหน้าสร้างรถยนต์แบรนด์ของ “เวียตนาม” เองในการประกาศเมื่อเดือนตุลาคมของปี 2018 ที่ผ่านมา

... การเดินเกมเสี่ยงสร้างแบรนด์ของตัวเองในครั้งนี้ นำโดยบริษัทชื่อ VinFast, ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของกลุ่มบริษัท Vingroup JSC VIC.HM โดยมีแผนว่าจะปล่อยรถสองรุ่นแรกออกมาต่อกรกับรถยนต์ต่างชาติในเดือนสิงหาคมปี 2019 นี้ ซึ่งโครงการนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนในการแก้เกมของเวียตนาม เพราะว่าที่ตั้งโรงงานใน “ไฮฟอง” นั้นไม่กี่เดือนก่อนยังเป็นที่ดินเปล่าอยู่เลย แต่เมื่อฝ่ายบริหารตัดสินใจสร้างรถตัวเองเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด การสร้างโรงงานและตัวโมเดลรถสองรุ่นก็เร่งด่วนให้เสร็จทันในเดือนสิงหาคมปี 2019 นี้ให้ทัน

... เพราะบริษัท VinFast พวกเขารู้ว่า “ตลาดรถยนต์” ใน “เวียตนาม” เติบโตเร็วมาก โดยมีเป้าหมายว่าต้องการผลิตได้ 250,000 คันต่อปี ที่คิดเป็นจำนวนร้อยละ 92 ของจำนวนรถยนต์ที่ขายในปี 2018 ในเวียตนาม ( ประมาณ 270,000 ) โดยจะผลิตในจำนวนเท่านี้เป็นเวลา 5 ปีข้างหน้า โดยเริ่มลงทุนเริ่มต้นที่ $3.5 พันล้านดอลล่าร์แล้ว

... นาย Jim Deluca ซีอีโอของวินฟาสท์ บอกว่า “เรากำลังจะเร่งขับเคลื่อนอย่างรวดเร็วเพื่อตอบรับตลาดรถภายในประเทศที่เติบโตมากให้เร็วที่สุด และหลังจากนั้นเราจะมองไปที่ตลาดเพื่อนบ้านในอาเซี่ยนและต่างประเทศต่อไป”

... ตอนนี้รถยนต์ที่ขายในตลาดภายในเวียตนามนั้นเป็น “รถยนต์แบรนด์ต่างประเทศ” ที่ประกอบชิ้นส่วนในเวียตนามเอง ( ประมาณ 270,000 คัน ) แต่เมื่อปี 2018 นี้ภาษีรถยนต์นำเข้าจากต่างประเทศ เช่นจากเพื่อนบ้านอย่าง ไทย อินโดนีเซีย จะเหลือศูนย์เปอร์เซนท์ ตามข้อตกลงระหว่างประเทศในอาเซี่ยน จะทำให้เกิดการไหลทะลักเข้ามาแย่งตลาดรถยนตร์ภายในและอุตสาหกรรมการประกอบรถยนตร์ของเวียตนามอย่างแน่นอน ดังนั้นพวกเขาในนามของเอกชนผู้สนใจเรื่องผลประโยชน์ของอุตสาหกรรมรถยนต์นี้ จึงต้องเร่งแก้เกม เสี่ยงลงทุนผลิต “รถยนต์แบรนด์ของเวียตนามเอง” ในที่สุด

... โดยเดิมนั้นกลุ่ม Vingroup บริษัทแม่ของ VinFast นั้น มีหลายสาขาธุรกิจ หนึ่งในนั้นคือบริษัท Vinhomes ที่เก่งและครอบครองตลาดส่วนใหญ่ของบ้านที่ดินอสังหาริมทรัพย์ ใน “เวียตนาม” แต่ว่าพวกเขาต้องการจะขยายสายการผลิตและการลงทุนมาตลาดรถยนตร์เพราะเห็นว่าเติบโตค่อนข้างมากและเร็ว

... “พวกเรามีฐานลูกค้าในเครือของเรามากกว่า 4 ล้านคน ที่เชื่อถือไว้ใจในชื่อเสียงของสินค้าและบริการของบริษัท และเราจะขยายสินค้ารถยนตร์นี้โดยต่อเนื่องจากลูกค้ากลุ่มนี้ได้”

... ไม่เพียงแค่เร่งปกป้องตลาดรถยนตร์ภายในจากคู่แข่งต่างชาติเท่านั้น แต่พวกเขายังตั้งใจผลิต “รถจักรยานยนตร์ไฟฟ้า” จำนวน 250,000 ต่อปี ``เพื่อตอบสนองต่อตลาดมอเตอร์ไซค์ที่ยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง ( ใน โฮจิมินห์ นั้นได้ฉายานามว่า “เมืองหลวงแห่งจักรยานยนตร์โลก” ) และขยายเป็น 1 ล้านคันต่อไปในปีต่อๆไป

... และรถยนต์สองรุ่นแรกของพวกเขานั้นในเฟสแรกจะใช้โครงรถของ บีเอ็มดับเบิ้ลยู ที่จะเป็นรุ่น SUV และ sedan ขนาดเล็ก, จะ เสร็จในเดือนสิงหาคมปี 2019 แล้ว ในเฟสต่อไป ยังมีแผนจะผลิตเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยีของเยอรมันอย่าง Germany’s EDAG Engineering (ED4.DE) ด้วย ที่ซีอีโอบอกว่าจะเน้นแนวคิดที่ว่าผลิตชิ้นส่วนเองทั้งหมด 100 เปอร์เซนท์ ที่แนวคิดแบบนี้หายากมากในตลาดรถยนตร์ปัจจุบัน

... และที่สำคัญรถยนต์แบรนด์นี้ จะเป็น “ความภูมิใจในชาติของชาวเวียตนาม”

... ก่อนหน้านี้ VinFast ก็เคยมีความร่วมมืออันดีกับ GM ของ “อเมริกา” มาแล้วโดยเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2018 ที่ผ่านมา จีเอ็มได้มอบกรรมสิทธิ์ในโรงงานผลิตที่ฮานอยให้กับ VinFast มาแล้ว แต่ต้องผลิตรถยนตร์ขนาดเล็กภายใต้ใบอนุญาตของจีเอ็มเท่านั้น จากปี 2019 เป็นต้นไป แต่พวกเขาก็ยังไม่หยุดแค่นั้น เพราะความฝันพวกเขาไกลกว่านั้น และนำมาสู่การสร้างโรงงานและสร้างรถยนต์แบรนด์ของ “เวียตนาม” เองในที่สุด

... VinFast ผู้ให้การสนับสนุนการทำทีมฟุตบอลอายุไม่เกิน 23 ปี ของเวียตนาม ที่กำลังเป็นขวัญใจของชาวเวียตนามอยู่ในขณะนี้นั้น ไม่ใช่นักธุรกิจกลุ่มแรกที่พยายามลองเสี่ยงทำในสายอุตสาหกรรมรถยนตร์ แต่กลุ่มก่อนหน้านั้นล้มเหลวก่อนที่ผลิตรถโมเดลเสียก่อนในปี 2012 พวกเขาจึงอยากจะเสี่ยงเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ของชาติ และ “และความภูมิใจในชาติเวียตนาม” อีกสักครั้ง

... พวกเขาไม่ได้ให้รายละเอียดของรถยนต์ แต่บอกแค่ว่า “มันอาจจะต้องเริ่มจากรถยนต์ขนาดเล็กราคาถูกไปก่อน แล้วค่อยขยับขยายไปหารถยนต์หรูหรา ที่ทั้งหมดนั้นกว่าที่เราจะเอาชนะความมั่นใจของลูกค้าต่อสินค้าเราได้ ก็อาจจะใช้เวลา 10 ถึง 20 ปี”

... “เราคิดว่า ความภาคภูมิใจในชาติคือ สิ่งที่เราจะได้กลับมาอย่างมหาศาล .... สิ่งที่เรากำลังทำอยู่ในตอนนี้มันเป็นสิ่งที่พิเศษมากสำหรับชายหญิงชาวเวียตนาม”
[For-Lek-Laak-Yaa] คุณได้รับคำเชิญสู่ห้องแชท "For-Lek-Laak-Yaa"
ผู้ให้บริการเทรดระบบหุ่นยนต์
.
... “We think national pride is a tremendous advantage for VinFast,” said Deluca. “What we’re doing here is something special for the men and women of Vietnam”.

... Vingroup already dominates the real estate market in Vietnam with Vinhomes,

... HAIPHONG, Vietnam (Reuters) - At a time when auto companies in the developed world are facing a squeeze on their profits from cash-rich tech firms, Vietnam is betting car-making can be a ticket t o a more prosperous economy, just as it was for the likes of Japan and South Korea.

... Most cars sold in Vietnam are foreign brands assembled in the country from kits. But a series of free trade agreements have reduced import duties and are opening up the market. A 30 percent import tax on cars from other Association of Southeast Asian Nations (ASEAN) countries was scrapped this year.

... VinFast, a unit of Vietnam’s largest conglomerate Vingroup JSC VIC.HM, is set to become the country’s first fully-fledged domestic car manufacturer when its first production models built under its own badge hit the streets next August.

... From a standing start, VinFast will have the capacity to produce 250,000 cars annually in the next five years or so, equivalent to 92 percent of all the cars sold in Vietnam last year, according to data collated by the Vietnam Automobile Manufacturers’ Association (VAMA).

... “We are driving the rapid expansion of the domestic automobile market so we are absolutely focused on winning here first,” CEO Jim Deluca said ahead of the Paris Motor Show this week, where VinFast will reveal its first export markets.
“We’re looking to expand both within ASEAN and outside.”

… VinFast will also produce 250,000 electric scooters a year alongside the 250,000 cars, in an ambitious production target that’s set to eventually increase to 1 million units each a year.
... VinFast’s first two models, an SUV and a small sedan, are being built on a frame from BMW (BMWG.DE). The components have been engineered by Canadian firm Magna International’s (MG.TO) Magna Steyr, while design work has been done by Italian design house Pininfarina (PNNI.MI).
*********************************************************************************
[For-Lek-Laak-Yaa] คุณได้รับคำเชิญสู่ห้องแชท "For-Lek-Laak-Yaa"
ผู้ให้บริการเทรดระบบหุ่นยนต์
เตรียมความพร้อมในวันนี้ เพื่อรอโอกาสที่จะมาถึง

Reed Hastings ผู้ก่อตั้งบริษัท Netflix สตรีมมิงวิดีโอรายใหญ่ของโลก
ที่ตอนนี้มียอดผู้ใช้เกินกว่า 100 ล้านคน

Netflix ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1997 ในลักษณะรูปแบบของร้านให้เช่าวิดีโอ

หนึ่งปีผ่านไป..

Netflix ได้สร้างรูปแบบการบริการที่แตกต่างจากร้านเช่าวิดีโอทั่วๆ ไป เพื่อให้สามารถขยายบริษัทต่อไปได้
ซึ่งก็คือ ระบบการส่งไปรษณีย์สำหรับให้เช่า DVD ภาพยนตร์

แต่มีเงื่อนไขคือ ผู้ยืมต้องส่งคืนภายในไม่เกิน 7 วัน หากส่งเกินกำหนดจะต้องถูกปรับเป็นเงิน

หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็พบว่าการปรับเงินอาจจะทำให้สูญเสียลูกค้าได้ง่ายเพราะว่า แม้แต่ตัวเขาเองที่ลองใช้บริการร้านของตัวเองยังถูกปรับจำนวนมากเช่นกัน

Netflix จึงปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจเป็น สมัครสมาชิกรายเดือน (subscription) เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกเช่าภาพยนตร์ที่ชอบได้แบบไม่จำกัด

และที่สำคัญก็คือ ผู้ใช้บริการไม่โดนปรับเงินเป็นจำนวนมากเหมือนในสมัยก่อนอีกด้วย

ธุรกิจของ Netflix ดำเนินไปได้ด้วยดีอย่างต่อเนื่องมาตลอด

จนกระทั่งในปี 2004 Blockbuster ผู้ประกอบธุรกิจเช่าวิดีโอรายใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ได้เริ่มปรับเปลี่ยน Model ธุรกิจเป็นรูปแบบสมัครสมาชิกเหมือนกับ Netflix และคอยตัดราคาสมาชิกให้ถูกกว่า

อย่างไรก็ตาม Netflix เองก็ไม่ได้ยอมแพ้ Blockbuster
เรื่องนี้จึงกลายเป็นสงครามราคาระหว่างทั้ง 2 บริษัทในที่สุด

อาจจะดูเหมือนว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่สำหรับ Netflix
แต่จริงๆ แล้วการเข้ามาของ Blockbuster เป็นสิ่งที่ Reed Hastings สนใจเท่าไหร่นัก

เพราะทุกวันนี้ที่ Netflix ยังคงดำเนินธุรกิจอยู่ก็เพื่อรอการเกิดขึ้นของสตรีมมิงวิดีโอตามที่เขาได้คาดการณ์ไว้เมื่อตอนต้นปี 2003

และทุกอย่างก็เป็นไปตามที่เขาเตรียมการไว้
ในปี 2006 มีการเกิดขึ้นของธุรกิจสตรีมมิงวิดีโอขึ้น เช่น Amazon video และ YouTube

พอเห็นแบบนี้แล้ว Reed Hastings ก็ไม่รอช้า รีบปรับเปลี่ยน Netflix เข้ามาสู่ระบบสตรีมมิงวิดีโอทันที

แรกเริ่ม เขาประกาศที่จะมอบรางวัลให้มากถึง 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับผู้ที่คิดค้นอัลกอริทึมในการแนะนำหนังเรื่องต่อไปหลังจากชมเรื่องแรกจบได้ดีกว่าสิ่งที่บริษัทมีอยู่ในตอนนี้

ปี 2007 บริษัท Netflix ได้ประกาศเปิดตัวรูปแบบสตรีมมิงวิดีโออย่างเป็นทางการ พร้อมกับการแยกธุรกิจส่ง DVD ทางไปรษณีย์ออกไปในอีก 4 ปีถัดมา

และกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่ากว่าแสนล้านดอลลาร์สหรัฐอย่างทุกวันนี้..

Cr.Market think
+ - + - + - + - + - + - + - +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 พาวเวลย้ำแนวทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป : นาย Jerome Powell, Federal Reserve Chairman เน้นย้ำแนวทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะต่อไปในลักษณะ patient ในการประชุม American Economic Association’s Annual Meeting พร้อมทั้งระบุว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะยังคงติดตามมุมมองของตลาดเกี่ยวกับความเสี่ยงด้าน downside ในอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ทั้งนี้ คณะกรรมการมีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน โดยจะใช้ทุกเครื่องมือในการดำเนินนโยบายเพื่อสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจต่อไป สำหรับมุมมองต่อการประกาศตัวเลขภาคการจ้างงานในวันนี้ นาย Powell มองว่าเป็นตัวเลขที่แข็งแกร่งมาก รวมถึงไม่กังวลถึงการขยายตัวของอัตราค่าจ้าง ว่าจะส่งผลให้เกิดอัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินไป

ในส่วนของประเด็นเรื่องกาปรับลด balance sheet นาย Powell ระบุว่าหากคณะกรรมการได้ข้อสรุปว่าแผนที่กำลังดำเนินอยู่ขัดกับวัตถุประสงค์ในการดำเนินนโยบาย ธนาคารกลางสหรัฐฯ ก็พร้อมจะปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม อย่างไรก็ดี นาย Powell เชื่อว่าการปรับลดขนาด balance sheet ของธนาคารกลางสหรัฐฯ มิใช่สาเหตุของความผันผวนในตลาดการเงินช่วงไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ นาย Powell กล่าวว่าตนจะไม่ลาออกจากตำแหน่ง Federal Reserve Chairman แม้ได้รับการเรียกร้องจากประธานาธิบดี Trump ด้านนาง Janet Yellen และนาย Ben Bernanke อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ทั้ง 2 ท่าน ซึ่งได้ร่วมเสวนากับนาย Powell กล่าวแสดงความเห็นเกี่ยวกับความเป็นอิสระทางการเมืองของธนาคารกลางสหรัฐฯ เช่นกัน โดยนาย Bernanke เชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ควรดำเนินนโยบายตาม mandate ที่ได้รับและมุมมองต่อภาวะเศรษฐกิจในระยะยาว ขณะที่นาง Yellen มองว่าประธานาธิบดีมีสิทธิ์ในการวิจารณ์ธนาคารกลางสหรัฐฯ แต่กังวลว่าหากเหตุการณ์ดังกล่าวยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องหรือทวีความรุนแรงมากขึ้น อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นต่อการดำเนินงานของธนาคารกลาสหรัฐฯ ได้

วานนี้มีการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) ประจำเดือน ธ.ค. พบว่ามีการขยายตัวที่ระดับ 312K สูงกว่าการคาดการณ์ของตลาด ขณะที่มีการ revised up ตัวเลขเดือนก่อนหน้าจาก 155K สู่ระดับ 176K โดยการจ้างงานทั้งในภาค Service และภาค Goods ขยายตัวในอัตราที่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ในรายละเอียด ภาค Service ซึ่งเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักของตลาดแรงงาน ขยายตัวที่ 227K เพิ่มขึ้นจากระดับ 146K ในเดือนก่อนหน้า นำโดยการปรับเพิ่มขึ้นของการจ้างงานในกลุ่ม Education/Health Services (82K) และ Leisure/Hospitality (55K) สำหรับการจ้างงานในภาค Goods-producing, Construction, และ Manufacturing ขยายตัวที่ 74K, 38K และ 32K ตามลำดับ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 27K, 0K และ 27K ตามลำดับ

Source: BOTSS

เพิ่มเติม
- Wall St. rebounds on robust jobs report, dovish Powell remarks: https://www.reuters.com/article/us-usa-stocks/wall-st-rebounds-on-robust-jobs-report-dovish-powell-remarks-idUSKCN1OY154

- เจอโรม พาวเวล”ส่งสัญญาณชะลอขึ้นดอกเบี้ย: http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/823232

- ประธานเฟดกร้าวไม่ลาออก หลังถูกทรัมป์กดดันอย่างหนัก: https://mgronline.com/around/detail/9620000001354

- No' Jerome Powell will not resign: https://www.bbc.com/news/business-46763683
Cr.Bank of Thailand
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
“ธนาคารกลางทั่วโลกต้องการทองคำมากขึ้น 42% หลังกระแสโลกเททิ้งดอลลาร์หนักขึ้น”

ธนาคารกลางของหลายประเทศทั่วโลกกำลังเปลี่ยนกระแสมาใช้ “ทองคำ” เป็นทางเลือกแทนค่าเงินดอลลาร์อเมริกา ซึ่งพวกเขาเห็นว่า “ถูกทำลายโดยนโยบายการค้าที่ก้าวร้าวของอเมริกา” และ “ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์” ที่โลกกำลังแบ่งเป็นสองขั้ว คือหนึ่งยอมเป็นข้าทาสเงินดอลล่าร์ กับอีกฝ่ายปฏิเสธเงินดอลล่าร์

... ความต้องการทองคำเพิ่มขึ้น 42% เมื่อเทียบเป็นปีต่อปีในไตรมาสแรกของปี 2018 ท่ามกลางธนาคารกลางทั่วโลก สถิติของ World Gold Council (WGC) ได้บอกชัดเจนว่า “รัสเซียและตุรกีเป็นผู้ซื้อสุทธิรายใหญ่ที่สุดในตลาดทองคำ”

... ธนาคารกลางเพิ่มทองคำแท่ง 193.3 ตันในช่วงครึ่งแรกของปี 2018 เพิ่มขึ้น 8% จากจำนวน 178.6 ตันของจำนวนในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 2017 นี่เป็นเครื่องหมายที่ดีมากที่สุดในรอบหกเดือนสำหรับการซื้อทองคำของธนาคารกลางตั้งแต่ปี 2015จากการข้อมูลที่บันทึกโดย WGC
, ในช่วงครึ่งแรกของปี 2018 ธนาคารกลางเพิ่มการถือครองทองคำเป็น 1.36 ล้านล้านดอลลาร์หรือประมาณ 10% ของทุนสำรองเงินตราต่างประเทศทั่วโลก WGC กล่าว นักวิเคราะห์บอกกับ RT ว่าเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการย้ายคือความปรารถนาที่จะเปลี่ยนจากดอลลาร์

... “ อเมริกาใช้เงินดอลลาร์ในการสร้างแรงกดดันต่อประเทศคู่แข่งมานานแล้ว สิ่งนี้ทำให้เกิดความโกรธในชุมชนโลกเสมอมา และตอนนี้การต่อสู้กับเงินดอลลาร์ได้ขยายลามไปถึงยุโรปแล้ว” เอลลิยาร์มูราตอฟ ประธาน Singapore Castle Family Office.ของสิงคโปร์ให้ความเห็น

... เขาบอกว่า “รัสเซีย” ได้เพิ่มการซื้อทองคำในคลังปริมาณสำรองเมื่อเผชิญกับการคว่ำบาตรใหม่ของ “อเมริกา” และตัดขาดการเชื่อมต่อในการค้ากับต่างชาติจากระบบการเงินดอลลาร์

… Muratov กล่าวต่อว่า “ขณะนี้มีการใช้กลยุทธ์ที่คล้ายคลึงกัน ในการต่อต้าน ปฏิเสธเงินดอลล่าร์ ในหลายประเทศทั่วยุโรปและเอเชีย เช่น จีน, ตุรกี, เวเนซุเอลา, อิหร่าน, กาตาร์ และ อินโดนีเซีย ที่มีวัตถุประสงค์ “เพื่อลดบทบาทของเงินดอลลาร์ในระบบเศรษฐกิจและการค้าต่างประเทศของพวกเขา” ประเทศทั้งหมดเหล่านี้กำลังเพิ่มปริมาณสำรองทองคำอย่างมีนัยสำคัญ”

... ตามที่ WGC ตั้งข้อสังเกตไว้ในรายงาน “การซื้อทองคำไม่เพียงแต่จะป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงิน ในสภาพแวดล้อมที่มีความตึงเครียดทางการเมืองโลกที่เพิ่มสูงขึ้น ทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่น่าดึงดูดเพราะไม่ใช่ถูกผูกความรับผิดไว้กับบุคคลหรือองค์กรใดๆและไม่มีความเสี่ยงใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคู่สัญญา”

... “ ทองคำ นั้นเป็นสินทรัพย์ที่คุ้นเคยสำหรับระบบธนาคารกลางโลกอยู่แล้ว แต่ลักษณะที่เปลี่ยนแปลงของตลาดทองคำ – เนื่องจากการบริโภคที่เพิ่มขึ้นมาจากประเทศกำลังพัฒนาซึ่งหมายความว่าทองคำมีความสอดคล้องกับรูปแบบทางเศรษฐกิจของตลาดเกิดใหม่มากขึ้น เช่น จีน รัสเซีย อินเดีย ตุรกี อิหร่าน กาต้าร์ อินโดนีเซีย เวเนซุเอลา ธนาคารกลางทั่วโลก อาจกำลังตระหนักว่า “กฎของเกม” กำลังเปลี่ยนแปลงไปมากขึ้นเรื่อย ๆ … ที่ทั่วโลกจะหันหน้าหนีในการสะสมเงินดอลล่าร์ในคลังสำรองมากขึ้นเรื่อยๆ”

.
... Central banks around the world are turning to gold as an alternative to the US dollar, which they see as being undermined by America’s aggressive trade policy and geopolitical uncertainty.
Demand for gold was up 42 percent year on year in the first quarter of 2018 among central banks, the World Gold Council (WGC) statistics say. Russia and Turkey are the largest net buyers.

Central banks added a net total of 193.3 tons of bullion in the half of 2018, an 8 percent increase from the 178.6 tons bought in the same period last year. This marks the strongest six months for central bank gold buying since 2015, the WGC notes.

... As of the first half of 2018 central banks increased their gold holdings to $1.36 trillion, around 10 percent of global foreign exchange reserves, the WGC said. An analyst has told RT that the reason behind the move is a wish to diversify from the greenback.

“The United States has long used the dollar to put pressure on competitors. This has always caused anger in the world community. And now the fight against the dollar has reached Europe,” said Eldiyar Muratov, President at Singapore Castle Family Office.

“Russia has stepped up buying gold in its reserves in the face of new US sanctions and a possible disconnection from the dollar system,” added the analyst.

... “Gold is already a familiar asset class for central banks, but the changing nature of the gold market – with ever-growing consumption coming from developing economies – means that gold is increasingly aligned with emerging market economic patterns. Central banks may increasingly recognize that the rules of the game are changing.”
Cr.Jeerachart Jongsomchai
ข้อมูลเพิ่มเติม YouTube : Forex : For = Foreign, Ex = Exchange : คลิปโดดเด่นปี 2561 https://bit.ly/2yOjZsS

YouTube : Forex : For = Foreign, Ex = Exchange : คลิปโดดเด่นปี 2560 https://bit.ly/2Akxvqp

กลุ่ม EAForLekLaakYaa :  https://www.facebook.com/groups/EAForLekLaakYaa/
--------------------------------------------------------------------------------------------------

[For-Lek-Laak-Yaa] คุณได้รับคำเชิญสู่ห้องแชท "For-Lek-Laak-Yaa"
ผู้ให้บริการเทรดระบบหุ่นยนต์


ฟอร์เหล็กลากหญ้า  ให้บริการอะไรบ้าง แก่นักลงทุนทั่วโลก
1.ให้บริการ EA ช่วยเทรด (ฟรี) เมื่อ ต่อไอบี เข้าทีมพี่เฉิน เรียบร้อย พร้อมกับ สอนการใช้งาน ทุกวันเสาร์
---------------------------------------------------------
2.ให้บริการ ดูแลพอต ตั้งแต่ 2,000 ขึ้นไป ค่าแรง 30%
--------------------------------------------------------
3.ให้บริการก็อปปี้เทรดจาก FBS ทุนมาสเตอร์เริ่มต้น 1000 $ ขึ้นไป
ระบบก็อปปี้เทรด FBS โดยใช้งาน แอปทางมือถือเท่านั้น
ลิงค์สาธารณะ : https://fbs.co.th/copytrade/26046
ลิงค์สาธารณะ : https://fbs.co.th/copytrade/26047
หรือ เสริชคำว่า  พอตเทรดคำที่ 1 SARAWIN   / พอตเทรดคำที่ 2  SARAXU
4.บริการสอนออนไลน์ผ่านกลุ่มไลน์ฟรี ทุกๆวันอาทิตย์  แก่ผู้สนใจจะลงทุนทั่วโลก
----------------------------------------------------------------------
5.โบรกเกอร์ ต้องการให้เราทำการตลาดในเมืองไทย  ติดต่อ ข้อเสนอมาได้ 24 ช.ม.
สนใจเปิดร้านซื้อ-ขาย ทองคำออนไลน์
มี ผจกดูแลผลประโชยน์ให้
มีพนักงานประจำร้าน
สิ้นเดือนเคลียร์กำไรทุหๆวันที่ 1-5
ติดต่อสอบถามได้ 48ช.ม.
******************************************
ตัวอย่างที่เทรดด้วย  AI For-Lek-Laak-Yaa ทีมงานเปิดอบรมใช้งานระบบแบบมืออาชีพทุกวันเสาร์
---------------------------------------------------
เปิดบัญชีเทรดทอง วันที่ 31-8-2561
ทุน 1000ดอล
ประวัติ์การเทรดและฝีมือการปรับแต่งระบบ ทุกวันเสาร์
ลิงค์แบบย่อ : https://bit.ly/2zDg8iP
--------------------------------------------------
ประวัติ์การเทรดและฝีมือการปรับแต่งระบบ ทุกวันเสาร์
เปิดบัญชีเทรดทอง วันที่ 15-11-2561
ทุน 2000 ดอล
ลิงค์แบบย่อ : https://bit.ly/2PpQpoG
-------------------------------------------------------
ประวัติ์การเทรดและฝีมือการปรับแต่งระบบ ทุกวันเสาร์
เปิดบัญชี เทรด UJ EJ  GU  EU
ทุน 2000ดอล
ลิงค์แบบย่อ : https://bit.ly/2PwzyAP
-----------------------------------------------------

สไตล์การลงทุนในตลาด forexe เทรดแบบกำไรเฉลี่ยเดือนละ 10% ถ้าได้เกินถือว่า ของขวัญชีวิตแต่ละเดือน ไม่เร่งรีบกำไร เน้นปลอดภัยจากสภาวะตลาดป่วนๆ
------------------------------------------------------------------
เปิดร้านซื้อขาย "สกุลเงินออนไลน์" งบลงทุน 10,000 ดอลล่า(320,000บาท)
ลิงค์แบบย่อ(ประวัติ์การเทรด+ซื้อขาย24ช.ม.) : https://bit.ly/2PQFjtd
ลิงค์แบบเต็ม(ประวัติ์การเทรด+ซื้อขาย24ช.ม.) : https://www.myfxbook.com/members/prajob/sara-for-lek-laak-yaa/2764342/S5rCyphq9K2qoOYKx57F
------------------------------------------------------------------
เปิดร้านซื้อขาย "ทองคำออนไลน์ " งบลงทุน 30,000 ดอลล่า(960,000บาท)
ลิงค์แบบย่อ(ประวัติ์การเทรด+ซื้อขาย24ช.ม.) : https://bit.ly/2QijxOl
ลิงค์แบบเต็ม(ประวัติ์การเทรด+ซื้อขาย24ช.ม.) : https://www.myfxbook.com/members/prajob/sara-for-lek-laak-yaa/2764333/rpITKc3C5HC1rduHUMfs





วันจันทร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2561

Zuckerberg สรุปผลงานตัวเองปี 2018 บอกภูมิใจที่เห็นการแก้ปัญหา Facebook คืบหน้า


Zuckerberg สรุปผลงานตัวเองปี 2018 บอกภูมิใจที่เห็นการแก้ปัญหา Facebook คืบหน้า

By: mk      Mark Zuckerberg     Facebook

Mark Zuckerberg เคยตั้งเป้าหมายประจำปี 2018 ว่าต้องการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของ Facebook ล่าสุดเขาเขียนสรุปผลงานของตัวเองตลอดทั้งปี 2018 ว่าคืบหน้าไปมาก และเขาภูมิใจกับผลงานเหล่านี้

เขาบอกว่าในฐานะบริษัท Facebook ปี 2018 แตกต่างจาก Facebook ในปี 2016 หรือแม้กระทั่งปี 2017 อยู่มาก เขาบอกว่าได้เปลี่ยนแปลง DNA ของบริษัทไปจากเดิม ให้หันมาโฟกัสด้านป้องกันภัยอันตรายของแพลตฟอร์มมากขึ้น ตอนนี้บริษัทมีคนมากกว่า 30,000 คนที่ทำงานด้านความปลอดภัย (safety)

Zuckerberg ยอมรับว่าการแก้ปัญหาเหล่านี้คงไม่จบภายในหนึ่งปี และคงไม่มีทางตรวจจับโพสต์ที่สร้างความเกลียดชังได้ทั้งหมด 100% แต่ Facebook ก็วางแผนการต่อเนื่องที่จะดำเนินไปอีกหลายปีเพื่อยกเครื่องระบบป้องกันให้ดีขึ้น เขายอมรับว่าที่ผ่านมาบริษัทไม่ได้สนใจปัญหาเหล่านี้มากนัก แต่ตอนนี้บริษัทจะทำงานในเชิงรุกมากขึ้น
[For-Lek-Laak-Yaa] คุณได้รับคำเชิญสู่ห้องแชท "For-Lek-Laak-Yaa"
ผู้ให้บริการเทรดระบบหุ่นยนต์

เขายังสรุปความคืบหน้าในงานด้านต่างๆ ของบริษัทตลอดปี 2018 ดังนี้

ป้องกันการแทรกแซงการเลือกตั้งเพิ่มระบบตรวจสอบบัญชีปลอม, ลบบัญชีปลอมก่อนที่จะเผยแพร่ข้อมูล, ร่วมมือกับหน่วยงานทั่วโลกด้านการตรวจสอบข้อมูลปลอม (fact-checker), กำหนดมาตรฐานการโฆษณาทางการเมืองให้โปร่งใสมากขึ้น

ป้องกันเนื้อหาที่สร้างความเกลียดชัง สร้างระบบ AI ที่คอยตรวจสอบและลบเนื้อหาด้านการก่อการ้าย-ความเกลียดชังให้ได้ก่อนที่จะมีคนเห็น ซึ่งสามารถตรวจสอบเนื้อหาด้านก่อการร้ายได้ 99%, ปรับอัลกอริทึม News Feed ให้แสดงข้อมูลจากเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้มากขึ้น, ปรับอัลกอริทึมลดโอกาสที่จะเห็นเนื้อหาหมิ่นเหม่, เพิ่มจำนวนคนรีวิวเนื้อหาเป็น 3 เท่าเพื่อตรวจสอบกรณีที่ซับซ้อนจน AI ไม่สามารถฟันธงได้, เพิ่มระบบอุทธรณ์หาก Facebook ตัดสินใจแบนเนื้อหาผิดพลาด

ยกระดับให้ผู้ใช้สามารถควบคุมข้อมูลของตัวเองได้ดีกว่าเดิมปรับปรุงแพลตฟอร์มให้แอพภายนอกเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้ได้น้อยลง เพื่อป้องกันเหตุการณ์แบบ Cambridge Analytica ไม่ให้เกิดซ้ำ, เพิ่มตัวเลือกช่วยทำตามกฎระเบียบ GDPR, ลดการใช้ข้อมูลของบริษัทภายนอกในระบบโฆษณาของ Facebook, เริ่มพัฒนาระบบ Clear History เพื่อให้คนลบข้อมูลของตัวเองได้ (ฟีเจอร์นี้สัญญาว่าจะทำแต่ยังไม่ได้ทำ)

ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ใช้งาน กระตุ้นให้คนสื่อสารและมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันมากขึ้น และลดการใช้งานในเชิงเสพเนื้อหาไปเรื่อยๆ เพียงอย่างเดียว เช่น ลดโอกาสแสดงผลวิดีโอไวรัลลงได้ 50 ล้านชั่วโมงต่อสัปดาห์, Facebook บอกว่านโยบายนี้ทำให้อัตรา engagement และรายได้ลดลงในระยะสั้น แต่บริษัทคาดว่าจะเป็นผลดีในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม โพสต์ของ Mark Zuckerberg ก็ถูกวิจารณ์ว่าพูดถึงแต่เรื่องดีๆ โดยละเลยประเด็นที่ Facebook ถูกโจมตีหนักๆ เช่น กรณีในพม่าที่ก่อให้เกิดการเข่นฆ่ากัน, พนักงานสัญญาจ้างของ Facebook ที่ทำหน้าที่เซ็นเซอร์เนื้อหา โดยงานหนัก เงินน้อย และไม่ได้รับการเหลียวแลจากบริษัทมากนัก, หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัย Alex Stramos ที่ลาออกไปเพราะขัดแย้งกับผู้บริหารเรื่องรัสเซีย ยังไม่สามารถหาใครมาแทนได้ และในโพสต์ของ Zuckerberg มีแต่คำว่า "ภูมิใจ" (proud) แต่ไม่มีคำขอโทษต่อปัญหาเหล่านี้เลยสักคำเดียว

ที่มา - Mark Zuckerberg, TechCrunch
---------------------------------------------------------------------------------------------------------
โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 1,000 เมกะวัตต์แห่งแรกของจีน
.
จีนเปิดใช้โรงไฟฟ้าแห่งใหม่ ขนาดหญ่กว่าสนามฟุตบอลหนึ่งพันสยาม ปัจจุบันกระแสแห่งการพัฒนาได้ไหลเวียนมาสู่จีนอย่างล้นหลาม ทั้งการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ รวมถึงด้านนวัตกรรม ปัจจุบันจีนได้ทุ่มเทอย่างยิ่งในการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่
.
เราก็ได้เห็นผลลัพธ์ของการพัฒนา เช่น ผู้ประกาศข่าว AI ที่สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง จีนได้พัฒนาขึ้นเป็นอย่างมากในระยะเวลาไม่นาน และเพื่อสร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืน จีนก็จะเป็นที่จะต้องมีแหล่งพลังงานที่ยั่งยืน และแน่นอน มันไม่ควรเป็นถ่านหิน หรือน้ำมัน
.
ในวันที่ 27 ธ.ค. ที่ผ่านมาจีนได้เชื่อมต่อโรงไฟฟ้าแห่งใหม่เข้ากับระบบจำหน่ายไฟฟ้าทั่วประเทศ ซึ่งโรงไฟฟ้าแห่งนี้เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากแสงอาทิตย์ (solar-thermal power plant) ที่มีกำลังผลิต 100 เมกะวัตต์แห่งแรกของจีน
.
โรงไฟฟ้าเเห่งนี้จัดได้ว่าเป็นโรงไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่มาก ซึ่งมีขนาดครอบคลุมพื้นที่ 7.8 ตารางกิโลเมตร หรือเทียบได้กับ 1,120 สนามฟุตบอลมาตรฐานเลยทีเดียว โดยโรงไฟฟ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองตุนหวง มณฑลกานซู่

โรงไฟฟ้าแห่งนี้ไม่ใช่ทุ่งโซล่าร์เซลล์ขนาดใหญ่แต่อย่างใด แต่เป็นทุ่งกระจกในพื้นที่กว่าหนึ่งพันสนามฟุตบอล ถูกตั้งไว้ด้วยแท่นกระจกซึ่งหันหน้าสะท้อนแสงอาทิตย์ไปรวมที่หอคอยโซลาร์ (Solar Tower) ซึ่งจะเปลี่ยนพลังงานความร้อนให้เป็นพลังไฟฟ้า โดยโรงไฟฟ้าเเห่งนี้มีกระจกติดตั้งอยู่กว่า 1หมื่น2พันชิ้น เลยทีเดียว
.
โดยนอกจากการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์แล้ว โรงไฟฟ้านี้ยังมีระบบในการผลิตไฟฟ้าระหว่างกลางคืนอีกด้วย โดยการใช้เกลือหลอมละลายซึ่งมีคุณสมับติในการกักเก็บความร้อน และนำความร้อนที่กักเก็บอยู่นั้นมาใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าต่อตลอดช่วงเวลากลางคืน
.
โรงไฟฟ้าแห่งนี้สามารถผลิตไฟฟ้าได้อยู่ที่ปีละ 390 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง (Kwh) อาจดูเป็นจำนวนที่มาก แต่ถึงอย่างไรประเทศจีนก็ยังคงเป็นประเทศที่มีการใช้พลังงานสูงที่สุดในโลก ซึ่งใช้พลังงาน 6 ล้านล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง ต่อปี

#FutureTrends #Futureisnear #Futureisnow #China #โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์
Cr. FutureTrends
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Buyer/Seller อีกฝั่งหนึ่งที่คุณลืมนึกถึง คุณกำลังเข้าซื้อที่ราคานี้....แล้วใครขายให้คุณ
ตลาด forex เป็นตลาด zero sum หมายความว่าเมื่อรวมผลลัพท์ของผู้ที่ได้กำไรและผู้ที่ขาดทุน ก็จะได้เป็น 0 หรือให้พูดให้เข้าใจง่ายๆ คือ เมื่อมีคนนึงได้ ย่อมมีอีกคนนึงเสีย และเมื่อเราเสียจะมีอีกคนนึงที่ยิ้มรับกำไรที่ได้จากเราไป
มาดู "ผู้เล่น" และบทบาทต่างๆดีกว่า
1. Market Maker ก็คือผู้จัดการตลาด เช่น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำหรับ forex แล้ว ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น MM ก็น่าจะเป็น Big Bank ที่ควบคุมการไหลเข้าออกของเงินสกุลนั้นๆ อีกทั้งเป็นผู้ที่ตั้งอัตราและเปลี่ยน เพราะว่า MM นั้นสามารถมองเห็นปริมาณ Order ทั้งฝั่งซื้อและฝั่งขาย ทำให้สามารถกำหนดราคาได้ เช่น เมื่อ MM เห็น order ฝั่งซื้อเป็นจำนวนมาก แต่มี order ฝั่งขายน้อย MM ก็จะขยับราคาขึ้นเพื่อยับยั้งผู้ซื้อรายใหม่ และจูงใจให้เกิดการขาย
2. Smart Money พวกนี้คือกองทุนสถาบันการเงิน และธนาคาร ที่เข้ามาแสวงหากำไร พวกนี้มีเงินถุงเงินถัง และต้องการกำไรที่มั่นคง เค้าจะกระจายความเสี่ยงตามหลักการลงทุน ทั้งเล่นสั้นทั้งเล่นยาว เนื่องจากมีเงินจำนวนมาก ทำให้ SM สามารถควบคุมทิศทางตลาดได้ ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ
3. Mass คือนักลงทุนรายย่อย หรืออีกชื่อหนึ่งคือ แมงเม่านั่นเอง กลุ่มนี้มีเป็นจำนวนมาก เข้ามาในตลาดเพื่อหวังได้กำไร แต่มักขาดทุนตลอด ดูใกล้ๆ ตัวก็ได้ กี่คนที่เข้ามาในตลาดแล้วมีแต่เสียกับเสีย
แล้วทำไม mass ถึงเสียตลอด และทำไม sm ถึงได้เสมอ ต้องมาดูกระบวนการทำงานของ sm กัน
sm จะทำอยู่ 4 อย่าง
1. Accumulation
2. Markup
3. Distribution
4. Mark Down
Accumulation
เมื่อ sm ดูราคาแล้วคิดว่าเหมาะสมที่จะเริ่มซื้อ (ตลาดมักเป็นขาลงอยู่) และคิดเปลี่ยนทิศทางของตลาด ในขณะนั้นมักจะมี supply เป็นจำนวนมาก และราคาถูก เพราะ mass เทขายออกมาเป็นจำนวนมาก และยังคิดจะขายอีก เหมือนกับเมื่อเราเห็นแท่งดำๆวิ่งลงยาวๆ เราจะอยู่ไม่สุข อยากเข้า อยากชอต ไม่อยากตกรถ ยิ่งเห็นมันทำท่าจะลงอีก ก็ทนไม่ไหว sm ก็ได้โอกาสซื้อ ล่อให้massจำนวนมากที่สุด เปิด short order ให้มากที่สุด จับคู่กับ long order ของ sm โดยจะแสดงให้เห็นในรูปของ sideway โดยหากดูที่ time frame ใหญ่ขึ้น อาจจะเห็นเป็น แท่งสั้นๆ หรือโดจิ ที่มี volume สูงมาก จากนั้นsm ก็ยกราคาขึ้นเล็กน้อยด้วยการ buy lot ใหญ่ๆ เพื่อ lock แมงเม่าผู้โชคร้าย กลุ่มนี้เอาไว้ โดยใช้จิตวิทยาว่า ไม่มีใครอยากปิด position ตอนมันแดงๆ ขาดทุนหรอก แล้วก็ทำการกวาด supply ที่เหลือในตลาดให้หมด ใน forex supply ก็คือ short order นั่นแหละ เมื่อตลาดเห็นความผิดปกติ เช่น เห็นเป็นโดจิขายาว (เนื่องจาก sm ดึงราคาขึ้นเพื่อ lock) ที่ time frame ใหญ่ ก็ไม่มีใครคิดจะเปิด short อีก พูดง่ายๆ supply หมดตลาดแล้ว
บ้านเราบางช่วงที่มะนาวขาดตลาด ราคามันขึ้นไปได้อย่างน่าตกใจ ตลาด forex ก็เช่นกัน ยิ่งเป็นตลาดที่ demand/supply เกิดจากความรู้สึก ไม่ได้เกิดจากสินค้าจริงยิ่งหมดง่าย นี่คือเป้าหมายของการ Accumulation ก่อนปล่อยราคาขึ้น sm มักมี trick เด็ดอีกอันนึง คือเปิด short order ใหญ่ทีเดียว เพื่อให้ราคาวิ่งลง จนดูเหมือนว่ามันจะ break out ลงข้างล่าง เพื่อล่อลวงแมงเม่าให้เข้ามาเปิด short ให้มากที่สุด แล้ว sm ก็ buy สวน ให้ราคากลับมาในอยู่ใน zone เดิม lock แมงเม่าผู้น่าสงสารไว้ หลังจากนั้น ไม่ว่าใครก็น่าจะมองออกแล้วว่าราคามันไม่ลงไปแล้ว ก็จะเกิด demand ขึ้นในใจของ mass ในขณะที่ไม่มี supply ในตลาด คงไม่ต้องบอกว่าเหตุการณ์ต่อไปเกิดอะไรขึ้น
MarkUp
ถึงตอนนี้ sm นั่งเฉยๆ ดูราคาวิ่งขึ้น เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประดับหนึ่ง ก็จะมี mass บางส่วน ปล่อยของทำกำไร ทำให้ราคาตกกลับมา แต่sm จะต้องรักษาเทรนด์เอาไว้เพื่อให้ราคาวิ่งขึ้นต่อจนถึงจุดที่น่าพอใจ แต่ต้องการใช้เงินน้อยที่สุดเค้าจึงทำเพียงแค่หยุดราคาที่ตกเอาใว้ โดยจุดที่เค้ายอมให้มันลงต่ำสุด จนต้องเข้าแทรกคือจุดบนสุดของ accumulation zone แต่หลายครั้งที่ sm ไม่ต้องแทรกแซงใดๆ mass เป็นผู้ดันราคากันขึ้นไปเองด้วยtrend lineบ้าง ด้วยfiboบ้าง ทำให้ sm ได้กำไรแบบเนื้อๆ แค่นั่งดูเฉยๆ
Distribution
เมื่อราคาถึงจุดที่น่าพอใจแล้ว sm ก็จะทำการหลอกล่อให้ mass เชื่อว่าราคามันจะวิ่งขึ้นต่อ เช่นการทำ new high ราคาวิ่งทะลุเส้นแนวต้าน เพื่อให้ mass เชื่อว่าราคาจะขึ้น แล้วเปิด long order โดยจับคู่กับการขายของsm (ปิด long position) ถ้าราคาวิ่งลงมา sm ก็จะดันราคากลับไปใหม่อีก ทำให้เราเห็น pattern จำพวก double top, tripple top, head and shoulder จนเมื่อใกล้หมดก็ปล่อยของทีเดียวหมด ฟาดกำไรจนอิ่ม supply ล้นตลาด ในขณะที่ราคายังสูงอยู่ คงไม่ต้องบอกว่าราคาจะวิ่งลงเร็วขนาดไหน เมื่อมีการขาย (ปิด long position) lot ใหญ่ และยิ่งวิ่งลงเร็วขึ้นเมื่อ mass เกิด panic
MarkDown
เมื่อราคาวิ่งลงมาถึงจุดที่ sm มั่นใจว่าจะปั่น demand ได้อีกครั้งก็จะทำการ mark ช่วงราคาที่จะเริ่มทำ accumulation อีกครั้ง
แล้ว mass ล่ะ mass สามารถเป็นผู้ผลักดันให้เกิดเทรนด์ได้หรือไม่ คำตอบคือได้ นั่นคือช่วงข่าวแรงๆ
แต่หากมองในมุมของ sm แล้ว ถ้าข่าววิ่งทิศเดียวกับ sm sm ก็ยิ่งได้กำไร ถ้าวิ่งทิศตรงข้าม จะกลายเป็นการเปิดโอกาสให้ sm สามารถเปิด order เพื่อจับคู่กับ mass ทีเดียวเป็นจำนวนมากๆ ได้ โดยที่ mass ไม่รู้ตัวเลย
จากกระบวนการทั้งหมดจะพบว่า เมื่อใดก็ตามที่เราขายจับคู่กับ sm ซื้อ หรือเราซื้อจับคู่กับ sm ขาย เราจะมีโอกาสขาดทุนสูงเสมอ เมื่อใดก็ตามที่เรา buy ที่ราคานี้ ก็คือกำลังมีอีกคนที่ขายให้เราที่ราคานี้ และเมื่อใดก็ตามที่เราขายที่ราคานี้ ก็คือกำลังมีอีกคนที่ซื้อของเราไปที่ราคานี้ ตามระบบการจับคู่ ก่อนเปิด order ให้หยุดนิดนึง แล้วดูว่าใครกันที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของเรา
Buyer/Seller อีกฝั่งหนึ่งที่คุณลืมนึกถึง
หมายเหตุ
- sm ไม่ได้จะสำเร็จทุกครั้งหรอก แต่เมื่อเค้าเสียเค้าก็เสียให้ในกลุ่ม sm กันเองนั่นแหละ แล้วแต่ว่าจังหวะนั้นใครใหญ่กว่า
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
น่าอ่านมากๆเลย(ok)เหนือ​จีนคือยิว
การเลี้ยงลูกในสังคมยิว(ok)"ฉันอยากเป็นแม่ของมหาเศรษฐี คุณกล้าพอที่จะพูดประโยคนี้กับลูกไหม
(pointing)เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงของหญิงชาวจีนเชื้อสายยิวท่านหนึ่ง(ok)ในปี 1992 ตอนที่ฉันตัดสินใจย้ายจากเมืองจีนไปปักฐานใหม่ยังอิสราเอล  ลูกชายคนโตอายุ 13 ลูกชายคนที่สองอายุ 12 ส่วนลูกสาวคนเล็ก 10 ขวบ  ฉันให้ลูกๆอยู่เมืองจีนไปก่อน
(clap)ที่ตัดสินใจย้ายไปอิสราเอลในตอนนั้น  ก็เพราะทนอยู่ในสภาพเดิมๆไม่ได้แล้ว  พ่อของฉันเป็นชาวยิวขนานแท้  ย้ายหนีสงครามโลกครั้งที่ 2 มาอยู่เมืองจีน  แต่งงานกับแม่ฉันซึ่งเป็นหญิงจีน  หลังฉันเกิดไม่นาน  แม่ก็ทิ้งพวกเราสองพ่อลูกไป  พ่อฉันเสียตอนฉันอายุ 12  ฉันกลายเป็นเด็กกำพร้าเต็มตัว  พอโตขึ้น  ฉันได้ทำงานในโรงงานถลุงเหล็ก  หลังแต่งงานก็มีลูก 3 คน  แต่แล้วสามีก็ทิ้งพวกเราไป  มันเป็นความทรงจำที่เต็มไปด้วยความขมขื่น  พอดีเป็นช่วงเวลาที่จีนกับอิสราเอลเปิดสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศขึ้นมา  ด้วยจิตใจที่อยากหนีให้พ้นๆจากดินแดนแห่งความทุกข์ใจ  ฉันเลยกลายเป็นพวกอพยพกลุ่มแรกที่ขอย้ายจากจีนไปอยู่อิสราเอล
(ok)ตอนถึงอิสราเอลใหม่ๆ  ความเป็นอยู่ยากลำบากกว่าอยู่ในเมืองจีนเสียอีก  ฉันไม่เข้าใจภาษาฮีบรูยุคใหม่ของอิสราเอลเลย  (ภาษาฮีบรูแบบโบราณที่พ่อเคยสอนฉันไว้บ้าง  เขาเลิกใช้กันแล้ว)  ท่ามกลางหมู่คนที่ฉันไม่รู้จักใครเลย  แถมยังเป็นบ้านเมืองที่ฉันไม่คุ้นเคย  เลยไม่ทราบว่าจะเริ่มทำมาหากินอะไร  เงินที่พกติดตัวไปจากเซี่ยงไฮ้คงพอยาไส้ได้สักสามเดือน  แต่ฉันมุ่งมั่นว่าต้องหาวิธีอยู่ให้รอด  และจะต้องรับลูกๆมาอยู่กับฉันให้ได้  ฉันเริ่มเรียนภาษาเพื่อสื่อสารให้รู้เรื่อง  แล้วฉันก็ตัดสินใจตั้งแผงริมถนนขายเปาะเปี๊ยะทอดยึดเป็นอาชีพไว้ก่อน  วันๆจะมีกำไรสิบกว่าซิเกิล  (หนึ่งซิเกิลเท่ากับเก้าบาทไทยโดยประมาณ)  พอการค้าเล็กๆน้อยๆของฉันพอจะพึ่งพาได้  เดือนพฤษภาคมปี 1993  ฉันรับลูกทั้งสามคนมาอยู่ด้วยกันที่อิสราเอล
(ok)ตอนอยู่ที่เมืองจีน  แม้จะลำบากแค่ไหนก็ตาม  แต่ฉันไม่เคยให้ลูกๆต้องลำบากด้วย  พอมาอยู่ที่นี่  ฉันก็ยังคงเลี้ยงลูกในแบบเดิมๆ  ซึ่งมันก็คงไม่ต่างจากคนจีนทั่วไป    ทุกวันหลังลูกๆ ไปโรงเรียน ฉันกขายปอเปียะไป พอตกบ่ายเลิกเรียน  พวกเขาก็จะมาหาฉันที่แผง  ฉันก็จะเก็บร้านเลิกขาย  แล้วเริ่มหุงหาอาหารมื้อเย็นให้ลูกๆได้กินกัน
(ok)มีอยู่วันหนึ่ง  ตอนที่กำลังเตรียมปรุงบะหมี่ให้ลูกๆ  เพื่อนบ้านคนหนึ่งเดินมาหาพวกเรา  แล้วก็ชี้หน้าลูกชายคนโตพร้อมตำหนิว่า  "แกเป็นเด็กโตแล้ว  ทำไมไม่ช่วยแม่ทำงานทำการบ้าง   อย่าทำตัวเหมือนขยะไร้ค่า"  แล้วเธอก็หันมาต่อว่าฉัน "อย่าเอารูปแบบผิดๆที่พกพาจากเมืองจีนมาเผยแพร่ที่นี่  อย่าคิดว่าสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่เป็นความรักที่ถูกต้อง"  คำพูดของเธอทำพวกเราตกใจมาก เป็นการทำร้ายจิตใจที่ดูโหดร้าย  พวกเรารู้สึกแย่เอามากๆ  เมื่อกลับถึงบ้าน  ฉันได้แต่ปลอบลูกชายคนโตว่า "ไม่เป็นไรนะลูก  แม่ทนได้  แม่รับไหว  แม่มีความสุขที่ได้ดูแลลูกๆทุกคน ขอให้ตั้งใจเรียนหนังสือให้ดีที่สุดก็พอแล้ว”   "แต่ว่า...." ลูกชายคนโตพูดอย่างครุ่นคิด "คุณน้าคนนั้นอาจจะพูดถูก  ผมคิดว่า  ผมน่าจะช่วยแบ่งเบาภาระให้แม่ได้บ้าง"
(ok)วันถัดมาเป็นวันที่ชาวบ้านไปโบสถ์กัน  โรงเรียนเลิกเรียนตอนเที่ยง  พอพวกเขามาถึงแผงขายของ  ลูกชายคนโตมายืนข้างฉัน  แล้วหยิบเอาแผ่นแป้งห่อเปาะเปี๊ยะใส่ไส้แล้วม้วนให้เรียบร้อย  นำลงทอดในกระทะจนสุก  แม้จะยังดูไม่คล่องแคล่วนัก  แต่ความชำนาญก็ค่อยๆเพิ่มขึ้นในชิ้นต่อๆไป
(ok)การเปลี่ยนแปลงของลูกชายคนโตเป็นสิ่งที่ฉันไม่เคยคาดคิดมาก่อน นอกจากจะช่วยงานที่แผงขายของแล้ว  เขายังเสนอว่าให้พวกเขาเอาเปาะเปี๊ยะทอดไปขายให้เพื่อนๆที่โรงเรียน  พวกเขาเอาไปคนละ 20 ชิ้น  พอเลิกเรียนกลับมา  ทุกคนเอาเงิน 10 ซิเกิลมาให้ฉัน  บอกตรงๆ  ฉันรู้สึกสะเทือนใจมาก  ปล่อยให้ลูกๆที่อายุยังน้อยต้องมาช่วยแบกภาระเรื่องทำมาหากิน  แต่ว่าการแสดงออกของพวกเขาไม่ได้บ่งบอกถึงความน้อยเนื้อต่ำใจเลย  พวกเขากลับบอกว่ารู้สึกมีความสุขและความภูมิใจกับการรู้จักหาเงินหาทองได้ตั้งแต่ตอนนี้
(clap)เพื่อนบ้านมักจะแวะมาคุยกับฉันบ่อยๆ  บอกเล่าถึงวิธีที่ชาวยิวเลี้ยงลูกหลานกันอย่างไร  ต้องให้การศึกษาแก่พวกเขาอย่างไร  ชาวยิวจะคิดว่า  การหาเงินไม่จำเป็นต้องรอตอนโตแล้ว  มันช่างแตกต่างจากคนจีนที่มักคิดว่า  "ตอนเป็นเด็กมีหน้าที่ศึกษาหาความรู้อย่างเดียว"  แต่ชาวยิวคิดว่า "ตอนเป็นเด็กก็ต้องเริ่มศึกษาวิธีหาเงินหาทองกันแล้ว"
(ok)เพื่อนบ้านบอกฉันว่า  ในครอบครัวชาวยิว  ไม่มีอาหารฟรี  ไม่มีบริการฟรี  ทุกอย่างต้องตีค่าเป็นเงิน  เด็กทุกคนต้องศึกษาวิธีการหาเงิน  เพื่อจะให้ได้มาในสิ่งที่ตนอยากได้  ฉันรู้สึกว่าวิธีการนี้ดูโหดร้ายเกินไป  ยอมรับไม่ค่อยได้  แต่ว่า  จากสิ่งแวดล้อมต่างๆรอบตัวพวกเรา  เด็กๆถูกซึมซับให้ยอมรับความคิดแบบนี้ได้ง่ายกว่าฉันมากมาย  ในที่สุด  ฉันตัดสินใจเปลี่ยนแปลงรูปแบบที่ฉันเคยดูแลพวกเขา  ลองให้พวกเขาปรับเปลี่ยนไปในลักษณะชาวยิวเต็มตัว
(pointing)เราเริ่มจากทุกอย่างในบ้านก่อน  ของทุกอย่างในบ้านตีเป็นมูลค่าหมด  รวมค่าอาหารและบริการต่างๆที่แม่คนนี้ทำให้ลูกๆ   ทุกคนต้องจ่ายค่าอาหาร  100 อาโกรอทต่อมื้อ  (100 อาโกรอทเท่ากับ 1 ซิเกิล)  ซักเสื้อผ้าครั้งละ 50 อาโกรอท  แต่ฉันก็หาโอกาสให้พวกเขามีทางทำมาหากิน  ฉันขายเปาะเปี๊ยะทอดให้พวกเขาในราคาขายส่ง  ชิ้นละ 30 อาโกรอท  แล้วให้พวกเขาไปตั้งราคาขายกันเอง  กำไรเป็นของพวกเขา  วันแรกที่กลับจากโรงเรียน  ถึงจะรู้ว่าทั้งสามคนล้วนมีวิธีการขายที่ไม่เหมือนกันเลย  ลูกสาวคนเล็กซื่อหน่อย  ขายให้เพื่อนๆในราคา 50 อาโกรอทต่อชิ้น  ได้กำไรมาทั้งสิ้น 400 อาโกรอท  คนที่สองใช้วิธีขายส่ง  เขาขายทั้งหมดให้โรงอาหารของโรงเรียน  ราคา 40 อาโกรอทต่อชิ้น  ได้กำไรมาแค่  200 อาโกรอท  แต่สิ่งที่ตามมาก็คือ  โรงอาหารสั่งให้เขาไปส่งทุกวัน  วันละ 100 ชิ้น  ส่วนลูกคนโตคิดนอกกรอบกว่าคนอื่น  เขาจัดรายการสัมมนาในหัวข้อเรื่อง  "มารู้จักประเทศจีนกันหน่อย"  เขาเป็นผู้ดำเนินรายการเอง  จุดดึงดูดอีกอย่างของงานก็คือ  ทุกๆคนที่เข้าร่วมจะได้ลิ้มรสเปาะเปี๊ยะทอดแบบจีน  โดยเขาเก็บค่าผ่านประตูคนละ 10 อาโกรอท  เปาะเปี๊ยะทอดทุกชิ้นถูกหั่นเป็นสิบชิ้นเล็ก  มีผู้เข้าร่วม 200 คนเต็มความจุ  เก็บค่าผ่านประตูได้ 2000 อาโกรอท  หลังหักค่าสถานที่ให้โรงเรียนไป 500 อาโกรอท  เขายังเหลือกำไรสุทธิ 1500 อาโกรอท
นอกจากวิธีการของลูกสาวที่อยู่ในความคาดคะเนของฉันแล้ว  ต้องยอมรับว่าลีลาของลูกชายทั้งสองอยู่เหนือจินตนาการของฉันจริงๆ  ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า  ในช่วงเวลาสั้นๆนั้น  พวกเขาเปลี่ยนแปลงจากเด็กที่ทำอะไรไม่เป็น  กลับกลายเป็นเด็กที่มีความคิดในลักษณะพ่อค้าเต็มตัว  รู้คุณค่าของเงิน และมุ่งมั่นจะหาเงินให้มากยิ่งขึ้นในรูปแบบที่ถูกต้อง แต่การเรียนของพวกเขาก็ไม่ได้รับการกระทบกระเทือนเลย
(ok)ลูกชายคนโตได้มีโอกาสเรียนเกี่ยวกับกฏหมายของพวกผู้อพยพเข้าเมือง  เขาบอกฉันว่า  ครอบครัวที่อพยพเข้ามาในอิสราเอลอย่างบ้านเรา  มีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล  ฉันไม่แน่ใจว่ามันจะเท็จหรือมันจะจริง  แต่ก็ลองไปติดต่อทางการดู  สุดท้ายก็ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลเป็นเงิน  6000 ซิเกิล  นี่เป็นเงินจำนวนไม่น้อยสำหรับครอบครัวเรา  ลูกชายคนโตบอกฉันว่า  เงินจำนวนนี้ได้มาเพราะคำแนะนำของเขาแท้ๆ  เขาควรได้รับส่วนแบ่ง 10%  ฉันตรึกตรองอยู่นาน  สุดท้ายก็ตัดสินใจแบ่งให้เขาไป 600 ซิเกิล  หลังได้รับเงิน  เขาซื้อของขวัญชิ้นงามให้ฉันและน้องๆคนละชิ้น  เงินที่เหลือ  เขาบอกว่าจะเอาไปต่อทุนเพื่อหาเงินให้ได้มากยิ่งๆขึ้น เขาใช้เงินจำนวนนั้นไปสั่งซื้อเครื่องเขียนจากเมืองจีนส่งผ่านมาให้ทางไปรษณีย์  ราคาเครื่องเขียนที่จีนถูกกว่าของอิสราเอลมากมาย  เขานำมาขายให้เพื่อนๆในโรงเรียน  พอได้กำไร  เขาก็ยังเดินหน้าค้าขายต่อไป  หนึ่งปีผ่านไป  ตัวเลขบัญชีในธนาคารของเขาเพิ่มเป็น 2000 ซิเกิล  แม้ลูกชายคนโตจะรู้จักหาเงินได้มาก  แท้จริงแล้ว  ลูกชายคนที่สองมีหัวการค้าแบบชาวยิวไม่แพ้พี่เขา  ชาวยิวทั้งหลายมีหลักการง่ายๆว่า " ค้าขายอะไรก็ได้ที่ไม่ต้องลงทุน  จะมีความเสี่ยงน้อยที่สุด  ทำอะไรก็ได้ที่คนอื่นยังไม่ได้เริ่มทำ  จะมีโอกาสที่ดีที่สุด" ในขณะที่ลูกคนโตกำลังทำเงินกับเครื่องเขียนจากจีน  ลูกคนที่สองก็ทำเงินของเขาไปอย่างเงียบๆ  เขาใช้หัวคิดจากมันสมองของเขาที่ไม่ต้องลงทุนเป็นตัวเงิน  เขาเขียนบทความต่างๆเกี่ยวกับเมืองเซี่ยงไฮ้จากมุมมองของเด็กอายุ 14 คนหนึ่ง  เขามีคอลัมน์ประจำในหนังสือพิมพ์  เขียนอาทิตย์ละ 2 บท  บทละประมาณ 1000 ตัวอักษร  รายได้ตกเดือนละ 8000 อาโกรอท
(ok)ส่วนลูกสาวคนเล็กนั้น  จะเก็บตัวหน่อยตามภาษาเด็กผู้หญิง  ไม่ได้แสดงบทบาทเรื่องหาเงินหาทองมากมายนัก  แต่จากตัวเธอ ฉันสามารถรับรู้ถึงกลิ่นไอของชาวยิวที่ชอบมองชีวิตความเป็นอยู่แบบสวยงาม  เธอหัดชงชาและทำขนม  ทุกๆเย็น  เธอจะเตรียมชาไว้กาหนึ่ง  แล้วก็มีขนมจากฝีมือเธอเองไม่ซ้ำแบบ  พวกเราจะได้นั่งล้อมวง  ดื่มชา ทานขนมและพูดคุยกัน  ขนมของเธอก็มักจะมีกลิ่นไอจากจีนปะปนอยู่ด้วย  ทุกคนที่บ้านชอบกันทั้งนั้น  แน่นอน  มันไม่ใช่ของฟรี  พี่ๆต้องจ่ายค่าขนมให้เธอ  หักค่าวัตถุดิบแล้ว  น้องสาวสุดท้องก็มีรายได้ที่น่าพอใจ(ok)ตอนนี้บ้านเราไม่จนแล้ว  เรามีเงินเก็บพอประมาณ  เลยตกลงกันว่าจะเปิดร้านอาหารจีนขึ้นมาร้านหนึ่ง  ฉันถือหุ้น 40%  ลูกคนโต 30%   คนรอง 20%   และคนเล็ก 10%   ร้านของเราประสบความสำเร็จอย่างงดงาม  เป็นที่นิยมของเหล่านักชิมทั้งหลาย  ผู้หญิงจากประเทศจีนคนนี้ก็เลยกลายเป็นคนที่ถูกสังคมจับตามองโดยไม่รู้ตัว  จนกระทั่งฉันได้มีโอกาสเข้าพบนายกรัฐมนตรียิตซัค ราบินของอิสราเอล  ฉันกลายเป็นคนโด่งดังในชั่วข้ามคืน  ตอนนี้ฉันสามารถใช้ภาษาฮีบรูของอิสราเอลได้อย่างคล่องแคล่ว  บวกกับฉันมีภาษาจีนเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว  ทำให้ฉันถูกทาบทามโดยบริษัทค้าเพชรของรัฐบาลอิสราเอล  ให้ไปเป็นตัวแทนคนแรกของบริษัทประจำประเทศจีน  พอฉันย้ายกลับไปอยู่ประเทศจีนอีกครั้ง  ลูกๆทั้งสามก็ตามฉันไปด้วย  พอเอาลูกๆไปเปรียบเทียบกับเด็กทั่วๆไปในจีน  ฉันรู้สึกว่าลูกฉันจะดูโดดเด่นกว่าพวกเขาพอสมควร  ก่อนจะกลับไปที่จีนเที่ยวนี้  พวกเขาทั้งสามไปกว้านซื้อสิ่งของต่างๆจากอิสราเอลไว้มากมาย  พอพวกเขาเข้าเรียนได้ไม่นาน  ครูของโรงเรียนแวะมาคุยกับฉัน  บอกว่าเด็กๆนำเอาของมากมายจากอิสราเอลไปขายที่โรงเรียน  มีตั้งแต่เครื่องประดับ  เสื้อผ้า  ของเล่น  หรือแม้กระทั่งปลอกกระสุนเปล่าก็ไม่เว้น  ครูอยากให้ฉันช่วยดูแลเด็กๆให้อยู่ในกรอบหน่อย  ฉันบอกครูว่า  ฉันไม่สามารถห้ามการกระทำของพวกเขา  นี่เป็นวิธีหาเงินเพื่อจ่ายค่าเล่าเรียนของพวกเขาเอง  เพราะฉันไม่ได้รับผิดชอบค่าเล่าเรียนของพวกเขาอีกแล้ว  ครูทั้งตกใจและแปลกใจ  เขาไม่เข้าใจว่าคนมีเงินเดือนสูงในบริษัทข้ามชาติอย่างฉัน  จะไม่รับผิดชอบค่าเล่าเรียนของลูกๆ  ฉันเชิญครูทานขนมที่ลูกสาวคนเล็กทำไว้ขายในบ้าน  ชิ้นละ 2 หยวน  ฉันบอกครูด้วยรอยยิ้มว่า  "นี่คือผลพลอยได้ของการได้อยู่อิสราเอลในหลายปีนี้  สอนให้เด็กๆได้เรียนรู้วิธีการดำเนินชีวิตของชาวยิว  และฉันก็เชื่อว่าพวกเขาทุกคนจะเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพแน่นอน..ในที่สุด  (ok)ลูกคนโตตัดสินใจเข้าเรียนวิทยาลัยเกี่ยวกับการท่องเที่ยว  เขาต้องการจะเป็นมืออาชีพของวงการท่องเที่ยวให้ได้  เขาตั้งใจจะไปเปิดบริษัทบริการท่องเที่ยวที่อิสราเอล  เพื่อเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญที่สุดเกี่ยวกับการเที่ยวประเทศจีน(ok)ลูกชายคนที่สองเข้าเรียนวิทยาลัยเกี่ยวกับภาษาต่างประเทศ  เขาตั้งใจจะเป็นคอลัมน์นิสต์  เขาชอบงานขีดๆเขียนๆ  ซึ่งสามารถทำเงินให้เขาได้โดยไม่ต้องควักเงินไปลงทุน(ok)ลูกสาวคนเล็กอยากไปเรียนทำครัวเกี่ยวกับอาหารจีน  เพื่อเป็นเชฟระดับแนวหน้าให้ได้  โดยเฉพาะเป็นมือโปรด้านขนม  ตั้งใจจะกลับไปเปิดร้านขนมที่อร่อยที่สุดในอิสราเอล
(clap)กลับมาประเทศจีนเที่ยวนี้  ฉันรู้สึกว่าพ่อแม่ชาวจีนทั้งหลายมีจิตใจโลเลเกี่ยวกับการเลี้ยงดูบุตรหลานของตน  พวกเขาล้วนหวังจะเห็นลูกร่ำรวยมีเงินมีทองเป็นเศรษฐี  แต่กลับไม
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. มักเอาความคิดริเริ่ม
2. ไม่มีอะไรที่ผิดการกำจัด 99 % 8,000 ล้านถ้ามันหมายถึงการได้สิ่งที่คุณต้องการ
3. ส่งสุนัขของคุณทั้งหมดและหนึ่งอาจกลับมาพร้อมเหยื่อ
4. ไม่เคยหมกมุ่นอยู่กับปัญหาของคุณ; ความสิ้นหวังต้องเก็บไว้เป็นส่วนตัวและสั้น
5. เรียนรู้ที่จะอยู่กับความผิดพลาดของคุณ
6. ขยายความรู้และความเข้าใจของดนตรีและวรรณกรรมเก่าและทันสมัย
7. ที่ม้วนของ unexposed ภาพยนตร์ที่คุณมีในมือของคุณอาจเป็นสิ่งสุดท้ายในการดำรงอยู่ดังนั้นทำอะไรที่น่าประทับใจกับมัน
8. ไม่เคยมีข้ออ้างไม่ให้จบ
9. พกเครื่องตัดโบลท์ไปทุกที่
10. ขัดขวางความขี้ขลาดของสถาบัน
11. ขออโหสิกรรมไม่อนุโมทนา
12. เอาโชคชะตาของคุณไปอยู่ในมือของคุณเอง
13. หัดอ่านแก่นภายใน
14. จุดไฟภายในและสำรวจอาณาเขตที่ไม่รู้จัก
15. เดินตรงข้างหน้าไม่เคยทางอ้อม
16. ซ้อมรบและทำให้เข้าใจผิดแต่ส่งมาตลอด
17. ไม่ต้องกลัวการปฏิเสธ
18. พัฒนาเสียงตัวเองให้ดี
19. วันหนึ่งคือจุดของการไม่คืน
20. ตราตรึงเกียรติคือการสอบตกวิชาทฤษฎี
21. โอกาสคือสัดส่วนของชีวิต
22. ยุทธวิธีกองโจรดีที่สุด
23. แก้แค้นถ้าต้องมี
24. ชินกับหมีข้างหลังเทอ
25. รับทุกอย่างที่ทำโดยไม่ทำอะไรเลย
26. จงเห็นแก่ตัว
27. จงโง่
28. จงขี้เกียจคุณทำให้ฉันหัวเราะมากด้วยเราสามารถพบและทำการเดินทัวร์อึกินนั่งสมาธิมี tantra เซ็กซ์กับคู่หูและควบคุมการไหลของเงินกำไรเข้าบัญชีของเรา 88888888 ล้านล้าน usa ดอลลาร์ต่อบัญชี จะไปพักผ่อนแล้ววววววว ขอบคุนค้าบ หัวเราะหนักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ข้อมูลเพิ่มเติม YouTube : Forex : For = Foreign, Ex = Exchange : คลิปโดดเด่นปี 2561 https://bit.ly/2yOjZsS

YouTube : Forex : For = Foreign, Ex = Exchange : คลิปโดดเด่นปี 2560 https://bit.ly/2Akxvqp

กลุ่ม EAForLekLaakYaa :  https://www.facebook.com/groups/EAForLekLaakYaa/
--------------------------------------------------------------------------------------------------

[For-Lek-Laak-Yaa] คุณได้รับคำเชิญสู่ห้องแชท "For-Lek-Laak-Yaa"
ผู้ให้บริการเทรดระบบหุ่นยนต์


ฟอร์เหล็กลากหญ้า  ให้บริการอะไรบ้าง แก่นักลงทุนทั่วโลก
1.ให้บริการ EA ช่วยเทรด (ฟรี) เมื่อ ต่อไอบี เข้าทีมพี่เฉิน เรียบร้อย พร้อมกับ สอนการใช้งาน ทุกวันเสาร์
---------------------------------------------------------
2.ให้บริการ ดูแลพอต ตั้งแต่ 2,000 ขึ้นไป ค่าแรง 30%
--------------------------------------------------------
3.ให้บริการก็อปปี้เทรดจาก FBS ทุนมาสเตอร์เริ่มต้น 1000 $ ขึ้นไป
ระบบก็อปปี้เทรด FBS โดยใช้งาน แอปทางมือถือเท่านั้น
ลิงค์สาธารณะ : https://fbs.co.th/copytrade/26046
ลิงค์สาธารณะ : https://fbs.co.th/copytrade/26047
หรือ เสริชคำว่า  พอตเทรดคำที่ 1 SARAWIN   / พอตเทรดคำที่ 2  SARAXU
4.บริการสอนออนไลน์ผ่านกลุ่มไลน์ฟรี ทุกๆวันอาทิตย์  แก่ผู้สนใจจะลงทุนทั่วโลก
----------------------------------------------------------------------
5.โบรกเกอร์ ต้องการให้เราทำการตลาดในเมืองไทย  ติดต่อ ข้อเสนอมาได้ 24 ช.ม.
สนใจเปิดร้านซื้อ-ขาย ทองคำออนไลน์
มี ผจกดูแลผลประโชยน์ให้
มีพนักงานประจำร้าน
สิ้นเดือนเคลียร์กำไรทุหๆวันที่ 1-5
ติดต่อสอบถามได้ 48ช.ม.
******************************************
ตัวอย่างที่เทรดด้วย  AI For-Lek-Laak-Yaa ทีมงานเปิดอบรมใช้งานระบบแบบมืออาชีพทุกวันเสาร์
---------------------------------------------------
เปิดบัญชีเทรดทอง วันที่ 31-8-2561
ทุน 1000ดอล
ประวัติ์การเทรดและฝีมือการปรับแต่งระบบ ทุกวันเสาร์
ลิงค์แบบย่อ : https://bit.ly/2zDg8iP
--------------------------------------------------
ประวัติ์การเทรดและฝีมือการปรับแต่งระบบ ทุกวันเสาร์
เปิดบัญชีเทรดทอง วันที่ 15-11-2561
ทุน 2000 ดอล
ลิงค์แบบย่อ : https://bit.ly/2PpQpoG
-------------------------------------------------------
ประวัติ์การเทรดและฝีมือการปรับแต่งระบบ ทุกวันเสาร์
เปิดบัญชี เทรด UJ EJ  GU  EU
ทุน 2000ดอล
ลิงค์แบบย่อ : https://bit.ly/2PwzyAP
-----------------------------------------------------

สไตล์การลงทุนในตลาด forexe เทรดแบบกำไรเฉลี่ยเดือนละ 10% ถ้าได้เกินถือว่า ของขวัญชีวิตแต่ละเดือน ไม่เร่งรีบกำไร เน้นปลอดภัยจากสภาวะตลาดป่วนๆ
------------------------------------------------------------------
เปิดร้านซื้อขาย "สกุลเงินออนไลน์" งบลงทุน 10,000 ดอลล่า(320,000บาท)
ลิงค์แบบย่อ(ประวัติ์การเทรด+ซื้อขาย24ช.ม.) : https://bit.ly/2PQFjtd
ลิงค์แบบเต็ม(ประวัติ์การเทรด+ซื้อขาย24ช.ม.) : https://www.myfxbook.com/members/prajob/sara-for-lek-laak-yaa/2764342/S5rCyphq9K2qoOYKx57F
------------------------------------------------------------------
เปิดร้านซื้อขาย "ทองคำออนไลน์ " งบลงทุน 30,000 ดอลล่า(960,000บาท)
ลิงค์แบบย่อ(ประวัติ์การเทรด+ซื้อขาย24ช.ม.) : https://bit.ly/2QijxOl
ลิงค์แบบเต็ม(ประวัติ์การเทรด+ซื้อขาย24ช.ม.) : https://www.myfxbook.com/members/prajob/sara-for-lek-laak-yaa/2764333/rpITKc3C5HC1rduHUMfs