www.0879181778.blogspot.com,ป.เคมีภัณฑ์ ณ.สิงห์บุรี
สัมภาษณ์ลูกค้าวัดคูเมืองใช้ยาแคงเกอร์และปุ๋ยเร่งให้ดกในมะนาว
ประโยชน์ของมะนาวนั้นมีมากมายไม่แพ้รสชาติที่เปรี้ยวปรี๊ด
จี๊ดจ๊าด ซึ่งอยู่คู่คนไทยมานับตั้งแต่โบราณ
เชื่อว่าหลาย ๆ
คนคงจะชอบทานรสเปรี้ยวอย่างแน่นอน ซึ่งรสชาติเปรี้ยวเหล่านั้นก็มาจาก หลาย ๆ ที่มา
เช่น มะขามเปียก มะกรูด กรดมะนาว น้ำส้มสายชู เป็นต้น
แต่คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่ารสชาติเปรี้ยวที่โดนใจคนไทยมากที่สุดนั้นก็คือรสชาติเปรี้ยวจากมะนาว
ซึ่งนอกจากมะนาวจะให้รสชาติที่โดนใจคนมากมายแล้ว เจ้ามะนาวลูกกลม ๆ
นี้ยังมีสรรพคุณทางยาและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย
วันนี้กระปุกดอทคอมจะขอพาทุกคนไปรู้จักกับมะนาวให้มากขึ้นกันนะคะ
มะนาวและความเป็นมา
มะนาว มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Lime และมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า
Citrus Aurantifolia
Swingle หรือ Citrus Aurantifolia Swing เป็นพืชที่มีต้นกำเนิดอยู่แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นผู้ที่เรียนรู้การใช้มะนาวเป็นอย่างดีรวมทั้งประเทศไทยด้วย
มะนาวเป็นพืชที่ออกผลตลอดทั้งปี แต่ในช่วงหน้าแล้งจะออกผลน้อยกว่าปกติ
มะนาวเป็นพืชเศรษฐกิจที่ทำรายได้ให้กับประเทศได้มากมายในแต่ละปี เพราะมะนาวนั้นสามารถนำไปปรุงอาหารได้มากมายและยังสามารถนำมาเป็นเครื่องดื่ม
หรือนำไปเป็นส่วนประกอบในเครื่องดื่มต่าง ๆ ได้
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของมะนาว
มะนาวมีลักษณะเป็นไม้พุ่ม สูง 2-4 เมตร
กิ่งอ่อนมีหนามแหลม เปลือกต้นเรียบ สีน้ำตาลปนเทา มีใบย่อยใบเดียว
ลักษณะใบเป็นรูปไข่หรือรูปรียาว กว้าง 3-5 ซม. และยาว 4-8 ซม. ปลายใบแหลม
โคนใบมน มีปีกแคบ ๆ ขอบใบหยัก แผ่นใบมีต่อมน้ำมันกระจายอยู่ตามผิวใบ ออกดอกเป็นช่อสั้น
5-7 ดอก หรือออกดอกเดี่ยวตามซอกใบ ดอกมีสีขาว กลีบดอกมี 4-5 กลีบ หลุดร่วงง่าย
ผลมีรูปทรงกลม ผิวเรียบเกลี้ยง ผลอ่อนสีเขียวเข้ม พอแก่เป็นสีเหลือง มีรสเปรี้ยว
เมล็ดกลมรี สีขาว มี 10-15 เมล็ด
มะนาว
สรรพคุณอันน่าอัศจรรย์
รู้หรือไม่ว่ามะนาวถือเป็นยาอายุวัฒนะชนิดหนึ่ง เพราะมะนาวเป็นพืชที่มีคุณประโยชน์แทบทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นราก ใบ ดอก
เมล็ด เปลือกของผลมะนาว หรือแม้แต่น้ำมะนาว
ต่างก็มีสรรพคุณทางยามากมายจนน่าอัศจรรย์ นอกจากนี้ยังช่วยดูแลผิวพรรณให้ผุดผ่อง
ใช้ทำความสะอาดเครื่องเรือนและ แถมยังช่วยเจริญอาหารอีกด้วย
มะนาวกับสรรพคุณทางยา
มะนาวถือเป็นพืชที่ดีต่อสุขภาพอย่างแท้จริง
เพราะมะนาวมีส่วนช่วยในรักษาโรคและอาการต่าง ๆ ได้มากมาย เช่น ช่วยบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ
ช่วยแก้อาเจียนอันเนื่องมาจากความผิดปกติของธาตุในร่างกาย รักษาอาการลมเงียบ
รักษาอาการตาแดง ช่วยบรรเทาอาการไข้
นอกจากนี้ยังมีวิตามินซีสูง ช่วยในการรักษาอาการเลือดออกตามไรฟันหรือโรคลักปิดลักเปิด
ช่วยบรรเทาอาการไอและขับเสมหะ บรรเทาอาการต่อมทอนซิลอักเสบ ลดอาการเหงือกบวม
เพราะมีวิตามินซีสูง มะนาวยังช่วยขับพยาธิและรักษาอาการท้องผูก ท้องอืด ปวดท้อง
ท้องแน่น ท้องเฟ้อ รักษาอาการอาการโรคกระเพาะ ท้องร่วง แก้อาการบิด
รักษาอาการปัสสาวะกระปริบกระปรอยหรือขัดเบา
ช่วยฟอกและบำรุงโลหิตรักษาอาการโลหิตจาง แก้โรคเหน็บชา
และยังช่วยรักษาอาการปวดข้อได้
มะนาวเป็นพืชที่มีกรดซึ่งดีต่อร่างกายอยู่เป็นส่วนประกอบ ภายในน้ำมะนาวนั้นมี กรดซิตริค (Citric Acid) กรดมาลิค (Malic
Acid) และกรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid) ซึ่ง กรดซิตริคนั้นช่วยในการขจัดแคลเซียมที่สะสมอยู่ในหลอดเลือดแดง
ตับอ่อน และช่วยในการสลายนิ่วในไต้ได้ และยังช่วยในการขจัดล้างสารพิษโดยการกระตุ้นด้วยเอนไซม์ธรรมชาติ
ซึ่งช่วยบำรุงให้ผิวพรรณดีขึ้น
มะนาวนั้นอุดมไปด้วยสารฟลาโวนอยด์
ซึ่งสารฟลาโวนอยด์นั้น ไม่เพียงแต่ช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพของวิตามินซี
แต่ยังช่วยในการควมคุมระบบความดันโลหิตและช่วยลดอาการอักเสบได้อีกด้วย
นอกจากนี้ในมะนาวยังมีสารลิโมนอยด์และโมดิฟายด์ ซิตรัส เพคติน
ซึ่งปรากฎในการศึกษาครั้งล่าสุดว่าช่วยในการหยุดยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง, ชะลอการเจริญเติบโตและทำให้เซลล์มะเร็งนั้นตายในที่สุด
ซึ่งถือว่าช่วยในการรักษามะเร็งได้ส่วนหนึ่งด้วย
คุณค่าทางโภชนาการของมะนาว
ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรฯ ของสหรัฐอเมริกา (USDA) ระบุว่า ในมะนาวดิบ 1 ผล ปริมาณ 100 กรัม
มีคุณค่าทางโภชนาการที่สำคัญ ดังนี้
- น้ำ 88.26 กรัม
- พลังงาน 30 แคลอรี่
- โปรตีน 0.70 กรัม
- ไขมัน 0.20 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 10.54 กรัม
- ไฟเบอร์ 2.8 กรัม
- น้ำตาล 1.69 กรัม
- แคลเซียม 33 มิลลิกรัม
- แมกนีเซียม 6 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 18 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม 102 มิลลิกรัม
- โซเดียม 2 มิลลิกรัม
- วิตามินซี 29.1 มิลลิกรัม
- วิตามินเอ 50 IU
มะนาวกับการลดความอ้วน
เชื่อหรือไม่ว่า มะนาวสามารถช่วยในการลดความอ้วนได้ เพราะมะนาวมีกรดต่าง ๆ ซึ่งช่วยในการสลายไขมัน
นอกจากนี้มะนาวยังมีวิตามินซีสูง
เมื่อได้รับเข้าไปในปริมาณที่พอเหมาะก็จะทำให้ไขมันในร่างกายลดลง
ระดับไตรกลีเซอไรด์จะเป็นปกติ ไขมันเลวจะลดลงและช่วยให้ไขมันดีเพิ่มขึ้นอีกด้วย
สูตรน้ำมะนาวลดความอ้วน
ส่วนผสม มะนาว 1 ผล, น้ำตาลทรายแดง หรือน้ำผึ้ง 2 ช้อนชา, เกลือป่นปลายช้อนชา, น้ำอุ่น
หรือน้ำอุณหภูมิปกติ 1 แก้ว
วิธีทำ ชงน้ำผึ้งหรือน้ำตาลทรายแดงกับเกลือในน้ำอุ่นจนละลาย
ทิ้งไว้สักครู่ให้น้ำอุณหภูมิปรกติ แล้วบีบน้ำมะนาว 1 ผล
เพราะหากน้ำยังร้อน ความร้อนก็จะทำลายวิตามินซีในมะนาว คนแล้วรีบดื่มให้หมด
ควรดื่มก่อนนอนสัก 15-20 นาที
การดื่มน้ำมะนาวก่อนนอนนั้นจะทำให้ร่างกายจะได้วิตามินซี
แม้มะนาวว่าจะมีกรดซิตริก กรดมาลิค
แต่เมื่อผ่านกระบวนการย่อยของร่างกายจะแปรสภาพเป็นด่างที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
ถ้าดื่มทุกวันเป็นประจำ ร่างกายจะแข็งแรงสุขภาพโดยรวมจะดีขึ้น ไม่เป็นหวัดง่าย
กระดูกแข็งแรง และทำให้ผอมลงอีกด้วย
มะนาวกับความงาม
มะนาวถูกใช้ในการรักษาผิวพรรณมานานตั้งแต่สมัยโบราณ
นอกจากจะใช้เพื่อบำรุงผิวพรรณแล้ว ยังช่วยในการรักษาโรคผิวหนังบางชนิดอีกด้วย
เพราะมะนาวอุดมไปด้วยวิตามินซีซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระสาเหตุของริ้วรอยและช่วยให้ผิวกระชับเต่งตึงดูอ่อนเยาว์กว่าวัยค่ะ
สิวหายเกลี้ยงด้วยมะนาว
ส่วนผสม มะนาว 1 ช้อนชา, ไข่ขาว 1 ช้อนชา
วิธีทำ นำไข่ขาวผสมกับน้ำมะนาวแล้วตีจนเป็นเนื้อเดียวกัน
จากนั้นแต้มลงที่บริเวณตุ่มสิวทิ้งไว้ 30 นาที
ล้างออกด้วยโฟมหรือเจลล้างหน้าสูตรอ่อนโยน
เล็บสวยด้วยน้ำมะนาว
น้ำมะนาวสามารถใช้ในการบำรุงเล็บเพื่อให้เล็บเราสวยและแข็งแรงได้
โดยการฝานมะนาวพร้อมเปลือกออกเป็นซีก ๆ แล้วเอามาขัด ๆ ถู ๆ
ตามเล็บมือเล็บเท้าเพื่อเป็นการทำความสะอาด โดยถูไปตั้งแต่ผิวเล็บ
ตลอดจนทุกซอกทุกมุมของเล็บ สูตรนี้สามารถทำได้บ่อย ๆ เพราะเล็บเป็นเซลล์ที่ตายแล้ว
ดังนั้นจะไม่มีอาการแพ้แน่นอน ใครที่อยากมีเล็บสวย ๆ ก็ลองเอาไปทำได้นะคะ
ผมนุ่มสลวยไร้รังแคด้วยมะนาว
ส่วนผสม น้ำมะนาวว 8 ช้อนโต๊ะ, น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
วิธีทำ นำน้ำมะนาวผสมกับน้ำเปล่า แล้วคนให้เข้ากัน
จากนั้นนวดลงบนศีรษะตั้งแต่หนังศีรษะจนถึงปลายผม ทิ้งเอาไว้ 2-3 ชั่วโมง แล้วล้างออก
จะช่วยล้างรังแคเหนียว ๆ ที่ติดอยู่บนหนังศีรษะออกได้ และทำให้ผมนุ่มสลวยอีกด้วย
พอกผิวกายด้วยน้ำมะนาว
ส่วนผสม มะนาว 1 ผล, ดินสอพอง 5 - 6 เม็ด
วิธีทำ นำดินสอพองที่เตรียมไว้มาบดให้ละเอียด
แล้วบีบน้ำมะนาวลงในภาชนะที่ใส่ดินสอพองบด แต่ควรระวังอย่าให้เหลวจนเกินไป
ล้างร่างกายให้สะอาด แล้วเช็ดตัวให้พอหมาด ๆ จากนั้นนำดินสอพองที่ผสมเอาไว้พอกลงตามร่างกายให้ทั่วแล้วทิ้งไว้ประมาณ
15 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำอุ่นแล้วตามด้วยน้ำเย็นอีกครั้ง