วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

วิธีการกำจัดข้าวดีดข้าวเด้งข้าวหางข้าวป่า หญ้าในนาข้าว 20วันขึ้นไป

การกำจัดข้าวดีด ข้าวเด้ง ข้าวปน แบบถูกวิธี
ซึ่งผมทดลองมาระยะหนึ่ง เนื้อที่นาแต่ละบ้านเกินทุกแปลง กับอัตราส่วนสมุนไพรหมักข้าวดีด ไม่สมดุลกัน จึงไม่ได้ผลเท่าที่ควร
จึงเกิดอัตราส่วนใหม่ 2.5 ไร่ต่อ 1 ลิตร และแถม 1 ลิตรต่อ 10 ไร่เสมอ

1.หมักด้วยเกลือแกง กิโลกรัมละ 4 บาท
2.หมักด้วยยาสมุนไพร  ขวดละ 350 บาทถึงราคาขวดละ 1500 บาท
หมักก่อนปั้นดิน ทิ้งไว้ 7 วันแล้วย่ำดิน เลือบเทือกพร้อมหว่านข้าว 7-9 วัน ตามลำดับ  สั่งซื้ออ่านต่อคลิกหรือแอดไลน์0879181778
ปัญหาเมล็ดข้าวดีดจะสามารถแก้ไขได้อย่างไรบ้าง
ควรกำจัดตั้งแต่ระยะเริ่มต้น โดยใช้สารย่อยฟาง ซึ่งจะสามารถช่วยย่อยเมล็ดข้าวดีดและเมล็ดวัชพืชอื่นๆได้ด้วย ซึ่งทางบริษัทขอแนะนำ สารย่อยฟางชื่อ ไดเจส+A-100 ซึ่งจะช่วยให้ปัญหาข้าวดีดลดลง 90% จะสะดวก สบายในการใช้งานมากกว่า

ข้าววัชพืช (Weedy rice) เกิดมาจากการผสมข้ามระหว่างข้าวป่าที่พบทั่วไปในธรรมชาติ กับข้าวปลูก เกิดเป็นลูกผสมที่มีการกระจายตัวของลูกหลานเป็นหลายลักษณะ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลักษณะที่ชาวนาไม่ต้องการ คือ เปลือกเมล็ดมีสีดำหรือลายน้ำตาลแดง เมล็ดข้าวสารมีสีแดง ปลายเมล็ดมีหางและเมื่อสุกแก่เมล็ดจะร่วงก่อนเก็บเกี่ยวข้าว
ข้าววัชพืชจำแนกตามลักษณะภายนอกเป็น 3 ชนิด
1. ข้าวหาง หรือข้าวนก
2.
ข้าวดีด หรือข้าวเด้ง
3.
ข้าวแดง หรือข้าวลาย

หมายเหตุ ลักษณะของข้าววัชพืชจะมีการเปลี่ยนแปลงลักษณะเสมอ เนื่องจากมีความสามารถในการผสมข้าม (Cross Pollinations)
แนวทางในการแก้ปัญหาข้าววัชพืช   จาก การทำงานวิจัยร่วมกับเกษตรกรในจังหวัดสิงห์บุรีและลพบุรี เพื่อหาวิธีกำจัดข้าววัชพืชมาตั้งแต่ปี ..2556 จนถึง ปัจจุบัน พอจะสรุปได้ว่า หัวใจสำคัญในการแก้ไขปัญหา คือ การใช้เมล็ดพันธุ์ที่บริสุทธิ์ ร่วมกับวิธีเขตกรรม เช่น
1.
หากมีการระบาดเล็กน้อย ควรรีบกำจัดโดยการถอนต้นออกจากแปลง
2.
หากมีการระบาดรุนแรงควรงดปลูกข้าว 1 ฤดู หากจำเป็นต้องปลูกข้าว ให้ไถเตรียมดินล่อให้ข้าววัชพืชงอกแล้วกำจัดทิ้ง 1 ครั้ง ก่อนหว่านข้าว
3.
การตัดรวง ควรเริ่มทำตั้งแต่ระยะตั้งท้องและระยะเริ่มออกดอก โดยตัดชิดโคนต้นเพื่อป้องกันการแตกต้นใหม่ และในระยะที่เริ่มติดเมล็ดแล้ว ควรนำไปกำจัดทิ้งนอกแปลง
4.
ทำความสะอาดรถเกี่ยวข้าวก่อนทุกครั้ง เพื่อป้องกันเมล็ดข้าววัชพืชที่อาจติดมาจากแปลงอื่นและป้องกันไม่ให้แพร่ กระจายไปสู่ แปลงอื่น

    สิ่งสำคัญที่อยากจะเน้นย้ำอีกครั้งหนึ่ง คือ การป้องกันจะกระทำได้ง่ายกว่าการกำจัด หากชาวนาสังเกตเห็นว่าเริ่มมีต้นข้าวที่สูงกว่าและออกดอกก่อนข้าวปลูก ให้รีบถอนทิ้งทำลายเสียแต่เนิ่นๆ อย่าเข้าใจว่าเป็นข้าวปนที่เมล็ดไม่ร่วงเหมือนแต่ก่อน
2. แหล่งกำเนิดข้าววัชพืช (Sources)
     ข้าววัชพืช  เกิดจาการผสมข้ามระหว่างข้าวป่าที่พบทั่วไปในธรรมชาติ
กับข้าวปลูก     เกิดเป็นลูกผสมที่มีการกระจายตัวของลูกหลานออกเป็น
ลักษณะ  ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลักษณะที่ชาวนาไม่ต้องการ  คือ  เปลือกเมล็ด
มีสีดำหรือลายน้ำ  เมล็ดข้าวสารมีสีแดง  ปลายเมล็ดมีหาง  และ
เมื่อสุกแก่เมล็ดจะร่วงก่อนเก็บเกี่ยวข้าว
3. ลักษณะของข้าววัชพืช (Figure)
   เจริญเติบโตได้เร็วกว่าจนสูงล้มทับต้นข้าว มีความสามารถในการปรับตัวให้รอดพ้นจากการกำจัดได้ดี  เช่น ปรับต้นให้เตี้ยลงเท่าข้าวปลูก เพื่อให้รอดพ้นจากการตัดออกดอกและสุกเร็วกว่าข้าวปลูก ปลายเมล็ดมีหางยาว ทั้งสีขาวและแดงเปลือกเมล็ดสีดำ   หรือ  สีตาลลายแดง เมล็ดข้าวสารมีสีแดง ขาวขุ่น   และมีท้องไข่มากเมล็ดข้าววัชพืช  สามารถมีชีวิตอยู่ในดินได้นาน 2 -12 ปี และเมล็ดที่หล่นลงบนดินsไม่ได้งอกขึ้นมาพร้อมทีเดียวกันทั้งหมด  การกำจัดข้าววัชพืชจึงต้องกระทำอย่างต่อเนื่องและติดต่อกันอย่างน้อย  3  ปี
4.ชนิดของข้าววัชพืช (Types)
ข้าววัชพืชจําแนกตามลักษณะภายนอกเป็น 3 ชนิด
1. ข้าวหาง  หรือในบางท้องถิ่น เรียก ข้าวนก ข้าวป่า หรือข้าวละมาน  เมล็ดมีหางยาว 5-10 เซนติเมตร เมล็ดจะร่วงเกือบหมดก่อนเก็บเกี่ยวข้าวในแปลง ประมาณ 2 สัปดาห์ เมล็ดข้าวสารมีทั้งสีแดงและสีขาว
2. ข้าวดีด  หรือข้าวเด้ง เมล็ด ไม่มีหางหรือหางสั้นมาก ต้นจะสูงกว่าและออกดอกก่อนข้าวที่ปลูกในแปลง เมล็ดจะเริ่มร่วงหล่นตั้งแต่ระยะน้ำนม และจะร่วงหล่นก่อนข้าวที่ลูกสุกแก่
3. ข้าวแดง  หรือข้าวลาย เป็นข้าววัชพืชชนิดเมล็ดไม่ร่วง ชาวนาสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ผลผลิตจึงไม่เสียหาย แต่คุณภาพข้าวลดลง เพราะเมล็ดข้าวสารมีสีแดงปนอยู่
ข้าวหาง  หรือ  ข้าวนก เมล็ดมีหางยาว  สีขาวหรือแดง เมล็ดร่วงก่อนเกี่ยว
 ข้าวดีด  หรือ  ข้าวเด้ง เมล็ดไม่มีหางหรือมีหางแต่สั้นมาก เมล็ดร่วงได้ตั้งแต่ระยะเป็นน้ำนม
ข้าวลาย  หรือ  ข้าวแดง เมล็ดไม่ร่วง  เปลือกเมล็ดมีสีฟางหรือน้ำตาลลายแดง 
5. ปัญหาร้ายแรงที่เกิดจากข้าววัชพืช (Problems)
1. เจริญเติบโตได้รวดเร็วและสูงปกคลุมข้าวปลูกในระยะแตกกอ
2.
ข้าวหางและข้าวดีด จะออกดอกและสุกแก่ก่อนข้าวปลูกประมาณ 2 สัปดาห์
3.
ก่อนเก็บเกี่ยวเมล็ดร่วงเกือบหมด (ความเสียหายขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของข้าววัชพืช)
4.
มีข้าวแดงปนทําให้คุณภาพของข้าวลดลง (ชาวนาถูกตัดราคามากน้อยตามปริมาณขาวแดง)
ลักษณะที่ก่อให้เกิดผลเสียหายของข้าววัชพืช
1. เจริญเติบโตได้เร็วกว่าข้าวปลูก แย่งอาหารและคลุมพื้นที่ทําให้ข้าวปลูกไม้เติบโต หรือตาย หรือไม่ให้ผลผลิต
2.
มีความสามารถในการปรับตัวให้รอดพ้นจากการกําจัดไดดี
3.
มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะทั้งทางพันธุกรรม (ลักษณะแฝงภายในที่ยังไม่แสดงให้เห็น) และทางกายภาพ (มองเห็นได้จากภายนอก) ทุกชั่วอายุ (Generation) เนื่องจากมีความสามารถในการผสมข้าม (Cross Pollinations)
4.
เมล็ดที่ร่วงหล่นสะสมอยู่ในดินพื้นที่ปลูกและงอกเป็นวัชพืชในฤดูต่อๆ ไป
5.
เมล็ดจะพักตัว และมีชีวิตอยู่ในดินได้นานถึง 12 ปี
6.
เมล็ดสามารถงอกได้แม้อยู่ใต้ดินลึก 15 เซนติเมตร
7.
ปลายเมล็ดทั้งสีขาวและแดง มีหางยาว
8.
มีการผสมข้ามและอัตราการผสมติดสูงมาก
9.
เปลือกเมล็ดสีดํา หรือลายน้ำตาลแดง
10.
เมล็ดข้าวสารมีสีแดง ขาวขุ่น และมีท้องไข้มาก
ชุดย่อยสลาย เฉพาะเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของเกษตรกร
ลดข้าวดีดมากกว่า 90%
-
รวดเร็วในการย่อยสลายตอซังฟางข้าว ภายใน 3 วัน โดยไม่ต้องเผาฟาง
- ปรับสภาพดินในนาข้าว สามารถไถพรวนได้ง่าย
-
เพิ่มจุลธาตุอาหารให้แก่นาข้าวหลังการเก็บเกี่ยว
-
สามารถลดปัญหาข้าวดีด และข้าววัชพืชอื่น ในนาข้าวได้
*จดหมายเหตุทีมงานระดับประเทศ  ป.เคมีภัณฑ์ ***
ย้ำอีกครั้ง โปรดสังเกตุ ชุดย่อยสลายตอซังฟางข้าว ต้อง "สั่งโดยตรงหรือตัวแทนจำหน่ายแต่ละจังหวัด" เท่านั้น, สินค้ารายการนี้ได้รับการตอบรับ และนิยมเป็นอย่างสูงทั่วประเทศ ใช้กันมากที่สุด
#
เป็นสินค้าที่มีการซื้อซ้ำ หรือมีความถี่ในการสั่งซื้อบ่อยที่สุดในเว็บป.เคมีภัณฑ์
คุณสมบัติจำเพาะ ของ ไดเจส+A-100+46-0-0
- ย่อยสลายตอซังฟางข้าวได้ภายใน 7 วัน โดยไม่ต้องเผา
-
เป็นสินค้าเกษตรอินทรีย์ ปลอดสารพิษ เป็นออแกนิกส์ organic
-
การย่อยสลายฟางข้าว เป็นการเพิ่มธาตุอาหารให้แก่ดิน ลดการใช้ปุ๋ย รักษาสภาพแวดล้อม
ชุดย่อยสลายตอฟาง+กำจัดข้าวดีด ข้าวปน ระมาน ต้อง จากป.เคมีภัณฑ์ ณ.สิงห์บุรี เท่านั้น

สนใจผลิตภัณฑ์ หรือสนใจเป็นตัวแทนจำหน่าย
ติดต่อ ป.เคมีภัณฑ์   by ลุงเฉินมือขวานาข้าว
โทร: 087-9181-778    6.00 . - 19.00 .
e-mail: prajob_200000@yahoo.co.th
ขั้นตอนในการปฎิบัติในการขบวนการย่อยสลาย (ใช้หัวเชื้อทั้งหมดจำนวน 1 ชุด / 5ไร่)
    1. ปล่อยน้ำเข้าแปลงนา ให้ท่วมพอประมาณ  ครึ่งหน้าแข้ง
    2. เอารถย่ำตอซังให้จมน้ำจนทั่วแปลงนาให้ฟางจมน้ำ  ถ้าฟางไม่จมน้ำจะย่อยไม่ได้
    3. ทิ้งไว้ให้ครบอีก 3 วัน...บีบเมล็ดข้าวดีดข้าวเด้ง วันที่ 4ปั่นดิน และรอถึง 8วัน ก็เป็นการสิ้นสุดการย่อยสลาย สามารถทำการคราดหรือไถต่อได้เลย

การย่อยจะเกิดผลดีดังนี้คือ 
     1. ฟางข้าวเมื่อเน่าสลายจะให้ธาตุอาหารแก่พืชเมื่อฟางข้าวย่อยสลายแล้วจะได้ธาตุไนโตรเจน (N) ธาตุฟอสฟอรัส (P) ธาตุ3. ทำให้ดินร่วนซุย ทำให้ต้นข้าวออกรากลึกและรากเยอะ ช่วยให้ต้นข้าวหาอาหารได้มาก ลำต้น
        แข็งแรง
โพแทสเซียม (K) แคลเซียม (Ca) แมกนีเซียม (Mg) และซิลิก้า (Sio)
    การไถกลบฟางข้าวจำนวน 1 ตัน จะได้ธาตุอาหารทั้งธาตุหลักและธาตุรอง ดังนี้คือ ไนโตรเจน (N) 6 กิโลกรัม ฟอสฟอรัส (P2O5)2กิโลกรัม โพแทสเซียม (K2O)20กิโลกรัม แคลเซียม (Ca)2กิโลกรัม แมกซีเซียม (Mg)1.5กิโลกรัม และที่สำคัญคือได้ธาตุซิลิก้า (SiO2) จำนวน 50 กิโลกรัม โดยประมาณแล้ว 1 ไร่จะได้ฟางข้าว 800-1,000 กิโลกรัม/ไร่ และตอซังอีก 1,200 – 1,500 กิโลกรัม/ไร่ 
2. ย่อยวัชพืชในแปลงนา โดยเฉพาะข้าวดีด ข้าวหาง ข้าวลาย ข้าวนก จะถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ เป็นการขจัดวัชพืชใน แปลงนาอย่างได้ผล
  3. ทำให้ดินร่วนซุย ทำให้ต้นข้าวออกรากลึกและรากเยอะ ช่วยให้ต้นข้าวหาอาหารได้มาก ลำต้นแข็งแรง
4. ช่วยควบคุมจุรินทรีย์ตัวร้าย หรือ เชื้อราซึ่งเป็นสาเหตุของการแพร่ระบายโรคต่างๆ ของต้นข้าว
 5. ย่อยสลายไข่เพลี้ย เพลี้ยไฟ เพลี้ยกระโดย ซึ่งเป็นการตัดวงจรชีวิต ทำให้การแพร่ระบาดลดลง
 6. ย่อยสลายไข่หอยเชอรี่ ซึ่งเป็นการตัดวงจรชีวิต ทำให้การแพร่ระบาดลดลงลดการสูญเสียของการทำลายของต้นข้าว
 7. จุรินทรีย์จะช่วยปรับสภาพดินที่เป็นกรด-ด่าง ให้เป็นกลาง
ชาวนาและเกษตรกร คือกลุ่มอาชีพที่มีอุปสรรค ปัญหามากมายเกินกว่าที่คนทั่วไปจะนึกได้
แม้ข้าวเป็นธัญพืชที่งอกและเติบโต เก็บเกี่ยวไม่ยาก แต่ศัตรูก็เยอะ บางอย่าง จัดการ กำจัดได้ยาก
อย่าง ฟาง ที่ใคร ๆ ก็รู้จัก แต่จะทราบไหมว่า พื้นที่ปลูกข้าว 1 ไร่ จะมีฟางตกค้าง 1 ตันครึ่ง ซึ่งเกินกำลังความสามารถที่เจ้าของที่จะกำจัด หรือใช้ประโยชน์ ทันการเตรียมดินเพื่อเพาะปลูกรอบต่อไป ชาวนาจึงต้องเผา แม้จะโดนตำหนิต่อว่าก็ยอม
ข้าวดีด วัชพืชอีกชนิด ที่รูปร่างเหมือนข้าวทุกประการ งอกเร็วกว่า โตกว่า แย่งปุ๋ยดีกว่าเมล็ดข้าวพันธุ์ที่ชาวนาปลูก จึงออกรวงก่อน ตัดหน้าข้าวที่หว่านไว้ ทำให้ต้นเล็ก เมล็ดลีบ ผลผลิตต่ำ บางที่เหลือให้เก็บเกี่ยวแค่ครึ่งเดียว
ปัญหาหลัก 2 ตัวนี้ เป็นภาระของชาวนาทั้งประเทศ ทางออกที่ใช้กันคือ ใช้สารเคมีเข้าจัดการ ซึ่งราคาแพง และอาจเป็นพิษตกค้าง
การจัดการฟางและวัชพืช ด้วยวิธีกำจัดทำลาย ไม่ว่าจะเป็นถากถาง ขนย้าย ล้วนเป็นความยุ่งยาก สิ้นเปลือง สำหรับคนรู้ทฤษฎีชีวภาพ จะทราบดีว่าซากพืชอย่างฟาง ย่อยสลายทำลายตัวเองได้ แต่ต้องใช้เวลา และไม่ทันการเพาะปลูกรอบใหม่
เวลานี้ มีผู้คิดหาทางจัดการกับฟางและข้าวดีดได้แล้ว อยู่ที่จังหวัดสิงห์บุรี
ลุงเฉินมือขวาชาวนาไทย ที่ผันตัวมาเป็นนักคิด นักปรุงสารชีวภาพเพื่อแก้ปัญหาของดิน  ไดเจส+เอ-ร้อย+46-0-0
มันเป็นเอนไซม์ ทำหน้าที่ช่วยย่อย ถูกแดดถูกอากาศ ก็ยังทำหน้าที่ตามปกติ ต่างกับพวกน้ำหมักทั่วไปที่ถูกแดดก็หมดสภาพ”       
ลุงเฉินบอกว่า การผลิตก็คล้ายกับการหมักไม้ผลหรือพืชทั่วไป เพียงแต่วิธีการที่ต่างกัน จึงกลายสภาพเป็นเอนไซม์ที่มีประสิทธิภาพ ย่อยสลายฟางได้ภายใน 5 วันหรือก่อนหน้านั้นเล็กน้อย
ลุงเฉินบอกว่าจุดเริ่มต้นมาจากการอยากช่วยชาวนา เพราะปุ๋ยเคมีที่ใช้ ทำให้ดินแข็ง จึงพัฒนาน้ำหมักให้ย่อยสลายธาตุอาหารในดิน และปรับสูตรเรื่อยมา จนได้ผล ทำให้การย่อยสลายฟางมีประสิทธิภาพ ผลที่ได้ตามมา ก็ทำให้ข้าวดีดฝ่อไปด้วย จึงลดปัญหาการแย่งธาตุอาหารในนาข้าว ทำให้ได้ผลผลิตดีขึ้น จนที่ดินบางแปลงได้เกิน 100 ถังต่อไร่
ใช้ชื่อดีดี ดินเดิม ซึ่งหมายถึงการช่วยย่อยสลายธาตุอาหารลงสู่ดินอย่างรวดเร็ว ดินจะร่วนซุย เหมาะกับเพาะปลูก
การพัฒนาสูตรสารสลายฟาง เกิดจากพื้นฐานความรู้ในฐานะเป็นคนทดลองซ้ำๆ ประกอบกับเป็นคนช่างค้นคว้า หาความรู้และเป็นนักจดบันทึก อ่านเจอข้อมูลความรู้ ก็จดไว้เป็นเล่ม ๆ แล้วเอามาทดลองทำ นอกจากนั้น ยังเป็นคนช่างจินตนาการและค้นหาแนวทางไปสู่จุดนั้น เช่น รู้ว่า การย่อยสลายจะทำได้ดี ถ้ามีเอนไซม์ จึงคิดต่อว่าทำอย่างไร จะมีตัวช่วยย่อยแบบเดียวกับสัตว์เคี้ยวเอื้อง พวกวัว ควาย ที่กินหญ้า แต่ร่างกายโตใหญ่แข็งแรง เพราะการย่อยที่มีประสิทธิภาพ นำเอาสารอาหารจากหญ้าไปสร้างกล้ามเนื้อได้
แล้วเขาก็ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง คือย่อยสลายฟางได้อย่างรวดเร็ว และกำจัดข้าวดีด ปัญหาหนักอกของชาวนาได้ โดยใช้สารสลายฟาง 2 ลิตร น้ำสะอาด 200 ลิตร ฉีดพ่นได้ 5 ไร่
เขาท้าให้พิสูจน์ว่าจัดการปัญหาได้อย่างแท้จริง มีแปลงนาที่ทำแล้วได้ผลให้ไปชมกันได้ โดยนัดหมายหรือสอบถามกันที่ 087-9181778 จะได้รู้วิธีจัดการปัญหา ลดภาระที่มากมายของเกษตรกรให้ได้ผล เลิกโดนข้าวดีด รังควานเสียที.
#ชื่อสินค้า ได-เจส+A-100 (หมักข้าวดีด 3/7 วัน )
ปัจจุบันข้าวดีดเป็นปัญหาสำคัญในการทำนาเพราะแย่งสารอาหารแย่งปุ๋ยกับต้น ข้าวของเราและเกษตรกรส่วนใหญ่เกษตรกรต้องเสียค่าใช้จ่ายในการกำจัดข้าวดีด เป็นจำนวนมาก เราจึงคิดค้นสารกำจัดข้าวดีดซึ่งเป็นเคมีกึ่งชีวภาพชนิดเข็มข้น
สารหมักสลายตอซัง ฟางข้าว หมักวัชพืชในนาข้าว 7 วัน ควบคุมปริมาณข้าวดีดจำนวนลดลงเพียงแค่ใช้ครั้งแรกถึง 50% หลักการทำงานหลังจากที่ใส่น้ำเข้าเตรียมเพื่อจะหมักแล้ว ฉีดพ่นให้ทั่วแปลงนาห้ามเทที่ใดที่หนึ่งหรือปล่อยใหลตามน้ำเด็ดขาด เพราะตัวยาเป็นยาหนักจะกองอยู่กับที่พยามฉีดพ่นให้ทั่วแปลง 3 วันแรกเป็นเคมีย่อยสลาย 4 วันหลังเป็นจุลินทรีย์ เป็นอาหารในดิน ตัวยาสามารถกระจายและซึมทราบได้อย่างรวดเร็วและลึกลงไปในชั้นดินถึง1 ศอก กำจัดได้ชัว
#ปริมาณการใช้  ชุดละ 5ไร่
#ผู้จัดจำหน่าย บริษัท ป.เคมีภัณฑ์ จำกัด
#ราคา 900
บาท
#
ติดต่อ 0879181-778 (อ.เฉิน ดร.ด้านพืช9ใบ)